เมื่อวานนี้ (10 ต.ค.2562) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุน (ทตอ.) ได้พิจารณาผลการทบทวนความจำเป็นในการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-dumping: AD) สินค้าเหล็กกล้าไร้สนิมรีดเย็น ชนิดม้วน แผ่น และแผ่นแถบที่มีแหล่งกำเนิดจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามมาตรา 57 โดยที่ประชุมมีมติว่าให้ต่ออายุการใช้มาตรการต่อไปอีก 5 ปี เนื่องจากมีข้อมูลและหลักฐานเพียงพอว่าหากยุติการเรียกเก็บอากร AD จะทำให้มีการทุ่มตลาดต่อไป หรือทำให้การทุ่มตลาดฟื้นคืนมาอีก และให้ต่ออายุการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้ากรดซิทริกที่มีแหล่งกำเนิดจากสาธารณรัฐประชาชนจีนต่อไป โดยให้ต่ออายุอากร AD ต่อไปหลังจากใช้มาตรการนี้มาตั้งแต่ปี 2547 ให้เรียกเก็บในอัตราเดิม คือร้อยละ 57.79 ของราคาซีไอเอฟ เนื่องจากมีข้อมูลและหลักฐานเพียงพอว่า หากยุติการเรียกเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาดจะทำให้มีการทุ่มตลาดต่อไป หรือทำให้การทุ่มตลาดฟื้นคืนมาอีก
นอกจากนี้ ยังได้ผลการทบทวนความจำเป็นในการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้าเหล็กแผ่นรีดเย็นชนิดเป็นม้วนและไม่เป็นม้วนที่มีแหล่งกำเนิดจากสาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และไต้หวัน โดยที่ประชุมมีมติเรียกเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาด เนื่องจากมีข้อมูลแสดงความเป็นไปได้ที่จะมีการทุ่มตลาดต่อไปหรือฟื้นคืนมาอีก รวมทั้งยังมีแนวโน้มในการขายจัดราคาได้ในอนาคต และหากยุติการใช้มาตรการนี้ อาจจะเกิดการทะลักของสินค้าเข้ามาในราคาที่มีการทุ่มตลาด ทำให้อุตสาหกรรมเหล็กแผ่นรีดเย็นในประเทศไทยเกิดความเสียหายต่อไป จึงให้จัดเก็บในอัตราเดิมต่อไปอีก 5 ปี และหลังจากนี้จะเอาไปรับฟังความคิดเห็นประชาชน และบังคับใช้ต่อไป