"ไบโอไทย" เตือนนักวิชาการดัง ขอยึดจุดยืนสุขภาพแบนสารเคมี

สังคม
14 ต.ค. 62
16:39
1,513
Logo Thai PBS
"ไบโอไทย" เตือนนักวิชาการดัง ขอยึดจุดยืนสุขภาพแบนสารเคมี
ไบโอไทย เตือน "เจษฎา " ชี้ผู้บริหารไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่อง หลังออกจดหมายเปิดผนึกถึง "อนุทิน" อ้างถูกหลอกเป็นเครื่องมือแบนสารเคมี 3 ชนิด เพราะได้ข้อมูลไม่ครบถ้วน แนะขอให้มีจุดยืนปกป้องป้องสุขภาพประชาชน ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน

วันนี้ (14 ต.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก BIOTHAI  โพสต์ข้อความว่า ตามที่ รศ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ได้ออกมาเขียนจดหมายเปิดผนึกถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข เกี่ยวกับกรณีที่นายอนุทิน สนับสนุนให้มีการแบนสารเคมีที่มีความเสี่ยงสูงทั้ง 3 ชนิด โดยบอกว่า “คุณอนุทินและรัฐมนตรีในสังกัด โดนหลอกให้เป็นเครื่องมือในการแบนสารเคมีทางการเกษตรทั้ง 3 ชนิด โดยที่คุณอนุทิน ได้รับข้อมูลความรู้ที่ไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง” เราคิดว่าผู้บริหารแบบคุณอนุทิน หรือคุณมนัญญา นั้นไม่จำเป็นต้อง “รู้ทุกเรื่อง” เพราะสามารถเลือกรับคำปรึกษาจากนักวิชาการเก่งๆแบบ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ได้ ส่วนคุณมนัญญา รมช.เกษตรฯนั้น ทราบว่ามีการแต่งตั้งอดีตอธิบดีกรมวิชาการเกษตรถึง 2 คนมาเป็นที่ปรึกษา

อย่าลืมว่ากรณีการเสนอแบน จำกัดการใช้ทั้ง 3 สารนั้น มิได้เริ่มจากคุณอนุทิน แต่เป็นมติที่มีมาตั้งแต่สมัย ศ.นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร แล้ว ทั้งยังเป็นการเห็นพ้องต้องกันโดยองค์กรด้านสุขภาพ และอื่นๆ เป็นจำนวนมาก เช่น แพทยสภา สภาเภสัชกรรม สภาเกษตรกรแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นต้น

กรณีพาราควอตนั้น มีประเทศต่างๆแบนและประกาศแบนแล้วถึง 58 ประเทศ ส่วนคลอร์ไพริฟอสแบนแล้ว 16 ประเทศ แต่หลังจาก EFSA (องค์การความปลอดภัยอาหารแห่งยุโรป -European Food Safety Authority) แถลงล่าสุดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ในปีหน้า จำนวนประเทศที่ยกเลิกการใช้จะเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 30 ประเทศ ซึ่งประเทศไทยไม่ควรเป็นประเทศสุดท้ายที่แบนสารพิษร้ายแรงดังกล่าว ส่วนกรณีไกลโฟเซตหลังมีคำพิพากษา 3-4 คดี ให้บริษัทชดใช้ค่าเสียหายนับหมื่นล้านบาท และมีคดีขึ้นสู่ศาลกว่า 18,400 คดีแล้ว ประเทศต่างๆก็เริ่มทยอยแบนกันมากขึ้น

 

ไบโอไทย เห็นว่า ปัญหาเรื่องการแบนสารพิษที่เป็นปัญหาหมักหมมมานาน นักวิชาการและระบบราชการที่เป็นส่วนหนึ่งของปัญหา โดยเฉพาะนักวิชาการบางคนที่รู้แบบ “ครึ่งๆ กลางๆ” เช่น กรณีที่บอกว่าไกลโฟเซต ปลอดภัยพอๆ กับเกลือแกง เพราะดูแค่พิษเฉียบพลัน ไม่เข้าใจเรื่องพิษเรื้อรัง ซึ่งสถาบันวิจัยมะเร็งระหว่างประเทศ (ภายใต้องค์การอนามัยโลกกำหนดให้เป็นสารที่น่าจะก่อมะเร็ง

บางทีการรู้ครึ่งๆ กลางๆ ก็น่าตั้งคำถามว่าไม่รู้จริงๆ หรือจงใจเลือกรับข้อมูลจากฝ่ายบริษัทเคมีเกษตรแทนที่จะเลือกรับจากฝ่ายที่ปกป้องสุขภาพของประชาชนโดยไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน

ที่น่าสงสัยที่สุด เห็นจะเป็นการพยายามบิดเบือนประเด็นปัญหาการตกค้างของพาราควอตในสิ่งแวดล้อมและในผักผลไม้ ทั้งๆที่ๆเป็นงานวิจัยของภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์จุฬาฯ และการเฝ้าระวังที่เผยแพร่โดยกระทรวงสาธารณสุข ต่อกมธ.วิสามัญเรื่องสารเคมีในภาคเกษตรกรรม ของสภาผู้แทนฯ

ไบโอไทย เคยดีเบทกับ อ.เจษฎาในกรณีพืชดัดแปลงพันธุกรรม เคยนึกแปลกใจว่าทำไมข้อมูลจากมุม อ.เจษฎ์ ถึงมาจากข้อมูลที่ผลิตจากฝ่ายบริษัทยักษ์ใหญ่ เมื่อดีเบทกันเสร็จ อ.เจษฎ์มอบหนังสือให้เราเล่มหนึ่ง พลิกไปดูหน้าแรกๆแล้วตกใจ เมื่อพบว่าหนังสือเล่มที่แกรวบรวมเรียบเรียงเกี่ยวกับพืชดัดแปลงพันธุกรรมนั้น สนับสนุนข้อมูลในการเขียนจาก CropLife Asia และพิมพ์ขึ้นเพื่อเผยแพร่โดยเงินทุนจากองค์กรดังกล่าว อยากรู้ว่าสมาชิกของ CropLife Asia มีบริษัทไหนบ้างให้คลิกไปที่นี่ http://www.croplifeasia.org/about-us/member-companies จะพบว่า ที่จริงก็คือบริษัทเคมีเกษตรข้ามชาติที่ผลิตและจำหน่ายพาราควอต และไกลโฟเซตนั่นเอง

 

นักวิชาการแบบ อ.เจษฎ์ เตือนนักการเมืองแบบคุณอนุทิน เป็นเรื่องที่ทำได้ แต่ควรเตือนตัวคุณเองด้วยว่า ก่อนหน้าไปบอกให้คุณอนุทิน “ระวังถูกหลอก” นั้น ตัวเองมีความรู้เรื่องสารเคมีกำจัดศัตรูพืชมากน้อยเพียงใด ถ้ารู้แบบครึ่งๆกลางๆ เอาข้อมูลจากนักวิชาการฝ่ายสนับสนุนสารพิษที่ใกล้ชิดบริษัทมาเผยแพร่อยู่ เหมือนที่เลือกใช้ข้อมูลจาก CropLife ซึ่งองค์กรของบริษัทผลิตพืชดัดแปลงพันธุกรรมด้วยพร้อมๆกับขายสารเคมีกำจัดศัตรูพืชไปด้วย ควรกลับมาเตือนตัวเองดีกว่าดีกว่าไปเตือนคนอื่น

ไม่ใช่เฉพาะนักการเมืองแบบคุณอนุทิน และคุณมนัญญา ที่ไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่อง นักวิชาการแบบ อ.เจษฎ์หรือ ไบโอไทยเอง ก็ไม่จำเป็นต้อง “รู้ทุกเรื่อง” สิ่งที่สำคัญมากกว่าคือคุณเลือกยืนอยู่ข้างผลประโยชน์ของประชาชนหรือบริษัทยักษ์ใหญ่ ต่างหาก

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ หนุนยกเลิกใช้สารเคมีอันตราย 3 ชนิด

"อนุทิน" โต้คนข่มขู่นักวิชาการต้านสารพิษ "กระจอก-หน้าตัวเมีย"

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง