วันนี้ (30 พ.ย.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม่น้ำโขงที่ไหลผ่าน จ.อุบลราชธานี ช่วงนี้ เกิดการเปลี่ยนสีจากโขงสีปูน มาเป็นสีเขียวอมฟ้า น้ำใส เห็นผิวทรายใต้น้ำ โดยมองเห็นได้ชัดเจนแทบทุกจุด

แต่ที่เรียกเสียงฮือฮามากที่สุด คือบริเวณจุดชมวิวแม่น้ำสองสี ภายในวัดโขงเจียม ต.โขงเจียม อ.โขงเจียม เพราะมีนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดที่มาเที่ยวชมทัศนียภาพจุดชมวิวแม่น้ำสองสี ต่างพากันเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก ขณะที่การเปลี่ยนสีของแม่น้ำโขงครั้งนี้ กลับส่งผลกระทบกับผู้ประกอบอาชีพประมงริมแม่น้ำโขง

ชาวประมงได้รับผลกระทบจากน้ำโขงเปลี่ยนสี
นายฉวี กอมณี อายุ 77 ปี ชาวประมงและทำอาชีพเป็นคนขับเรือรับจ้างแล่นไปมาระหว่างฝั่งไทยและลาว เปิดเผยว่า ตนอายุมากขนาดนี้ และหากินอยู่กับลุ่มแม่น้ำโขงในที่แห่งนี้มานานร่วม 70 ปี ไม่เคยเห็นปรากฏการณ์แม่น้ำโขงเปลี่ยนสีเช่นนี้มาก่อน และได้ส่งผลกระทบกับผู้ประกอบอาชีพประมงจับปลาริมแม่น้ำโขง เพราะน้ำที่ใสกว่าปกติ ทำให้ปลาไม่เข้าตาข่ายที่ดักไว้ตามริมแม่น้ำ ช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ทำให้จับปลาแม่น้ำได้ยากขึ้น

ฉวี กอมณี
ฉวี กอมณี
สำหรับปรากฏการณ์ดังกล่าวส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวช่วงนี้ ซึ่งเป็นวันหยุด เมื่อนักท่องเที่ยวทราบข่าวจะพากันเดินทางมาชมปรากฏการณ์ของธรรมชาติที่หาดูได้ยาก น่าจะสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี

พบปรากฏการณ์อีกใน "เขมราฐ-นาตาล-โพธิ์ไทร"
นอกจากพื้นที่ อ.โขงเจียม ที่เป็นปลายแม่น้ำของประเทศไทยแล้ว ยังมีผู้พบเห็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติจากอำเภอด้านเหนือขึ้นไป ทั้งจาก อ.เขมราฐ อ.นาตาล อ.โพธิ์ไทร ทั้งนี้ การเปลี่ยนสีของแม่น้ำโขง ยังไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้น้ำในการทำเกษตรกรรมริมแม่น้ำ หรือน้ำใช้ในการอุปโภคบริโภคแต่อย่างใด

ส่วนสาเหตุการเปลี่ยนสีของแม่น้ำโขงครั้งนี้ ยังไม่มีหน่วยงานไหนออกมาชี้แจงอย่างเป็นทางการ มีเพียงการคาดเดาของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำว่า เกิดจากการสร้างเขื่อนตามจุดต่างๆ ของประเทศลาว ทำให้น้ำนิ่งฝุ่นตะกอน จึงตกนอนกับพื้นน้ำ ทำให้น้ำใสและเป็นสีฟ้าดังกล่าว
