เมื่อวานนี้ (3 ธ.ค.2562) ศาลจังหวัดพัทยานัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดีแกนนำและแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. กรณีร่วมกันชุมนุมและขัดขวางการประชุมอาเซียนซัมมิท ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เมื่อปี 2552 ซึ่งมีผู้รับมอบอำนาจจาก พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรรัตน์ จำเลยที่ 3 พร้อมทนาย นายสำเริง ประจำเรือ จำเลยที่ 6 และนายวรชัย เหมะ จำเลยที่ 13 เข้ารับฟังคำพิพากษา โดยก่อนหน้านี้ จำเลยทั้ง 3 คน ได้ยื่นคำร้องขอแก้ไขคำให้การเดิมจากปฏิเสธเป็นรับสารภาพ ซึ่งศาลมีคำสั่งว่าการแก้ไข หรือเพิ่มเติมคำให้การ ต้องกระทำก่อนศาลพิพากษา แต่จำเลยมายื่นในชั้นฎีกา จึงให้ยกคำร้อง
ส่วนกรณีที่ผู้รับมอบอำนาจ และจำเลยทั้ง 3 คน ยื่นคำร้องขอเลื่อนฟังคำพิพากษา โดยอ้างว่า พ.ต.ท.ไวพจน์ เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อยู่ระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ศาลมีคำสั่งว่าคดีนี้เสร็จการพิจารณาแล้ว การที่จำเลยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายรัฐธรรมนูญ ประกอบกับการเลื่อนคดีมีลักษณะเป็นการประวิงคดี จึงไม่อนุญาตให้เลื่อนฟังคำพิพากษา
โดยศาลได้พิพากษาให้จำคุกนายสำเริง และนายวรชัย เป็นเวลา 4 ปี ส่วน พ.ต.ท.ไวพจน์ ให้ออกหมายเรียกมาฟังคำพิพากษาในวันที่ 15 ม.ค.2563 เวลา 09.00 น.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง