วันนี้ (20 ธ.ค.2562) มูลนิธิสืบนาคะเสถียร สรุป 10 ข่าวสิ่งแวดล้อมที่คนสนใจมากที่สุดในปีนี้ มีอะไรบ้าง? โดยรวบรวม ประเด็นข่าวที่คนให้ความสนใจมากที่สุดในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ดังนี้
คดีเสือดำกับคำตัดสินที่รอคอย เปรมชัย รอด-ไม่รอด ?
ยังคงเป็นที่พูดถึงกันอย่างเนื่องกับข่าวคดีเสือดำ ที่เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก เข้าจับกุมนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริษัทอิตาเลียนไทยและพรรคพวก แอบนำปืนล่าสัตว์เข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก เมื่อ 3 ก.พ.61 พบซากเสือดำและสัตว์ป่าคุ้มครองอื่น ๆ อีกหลายชนิด
จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้นายเปรมชัยและพวก ต้องเดินทางขึ้น-ลง ศาลจังหวัดทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี อยู่บ่อยครั้ง คำพิพากษาจากศาลชั้นต้น เมื่อวันที่ 19 มี.ค.62 ระบุโทษนายเปรมชัย กรรณสูต จำเลยที่1 จำคุก 16 เดือน นายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2 จำคุก13 เดือน นางนที เรียมแสน จำเลยที่ 3 จำคุก 4 เดือน (โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี) และนายธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 4 จำคุก 2 ปี 17 เดือน
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijM75KaldYzpQkaS95Jz2A8pWLbsk8.jpg)
โจทก์ และจำเลยยื่นอุทธรณ์เพื่อขอต่อสู้คดีในชั้นศาลอุทธรณ์ เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.62 ศาลอุทธรณ์นัดฟังคำพิพากษา ที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ศาลอุทธรณ์พิพากษาเพิ่มโทษนายเปรมชัย กรรณสูต จำคุก 2 ปี 14 เดือน นายยงค์ โดดเครือ จำคุก 2 ปี 17 เดือน นางนที เรียมแสน จำคุก 1 ปี 8 เดือน ปรับเงิน 40,000 บาท แต่ให้รอลงอาญา 2 ปี และนายธานี ทุมมาศ จำคุก 2 ปี 21 เดือน
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijM75KaldYzpQkaS9nZN9l1MREdrqI.jpg)
“เมืองจมฝุ่น” สภาวะความเป็นเมืองกับฝุ่น PM2.5
กรุงเทพฯ ชีวิตดี ๆ ที่ลงตัว (?) บางครั้งก็เป็นประโยคบอกเล่า บางครั้งก็เป็นประโยคคำถาม เมื่อชีวิตในเมือง มีปัญหาหลายอย่างที่ทำให้ชีวิตสะดุด
ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา กระแสเรื่องฝุ่น PM2.5 ก็เริ่มเป็นที่พูดถึงมากขึ้น แต่การหลีกหนีจากสภาวะนี้ก็เหมือนจะริบหรี่ลงทุกวัน รัฐบาลรู้อยู่แล้วว่าที่มาของ PM2.5 ในกรุงเทพฯ มันมาจากตัวควันรถยนต์กับการจราจรที่ติดขัด รัฐต้องมองหาทางออกที่ยั่งยืนกว่าการฉีดน้ำจากตึกใบหยก ล้างถนน หรือสั่งจับรถยนต์ควันดำ หากรัฐไม่เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหานี้ เราก็จะจมอยู่ในสภาวะฝุ่น PM2.5 อย่างนี้ไปเรื่อย ๆ
รวมไปถึงผลกระทบสืบเนื่องจากข้างนอก เช่น การปล่อยควันพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม หรือการเผาในที่โล่ง ส่วนเชียงใหม่เป็นปัญหาด้านสภาพภูมิประเทศที่เป็นแอ่งกระทะที่ค่อนข้างสมบูรณ์ และการเผาเพื่อเตรียมพื้นที่เกษตรกรรม
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง กทม.เปิดแผนรับมือฝุ่น PM2.5
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijM75KaldYzpQkaS97BLd1zU1lm9JC.jpg)
วิกฤติแม่น้ำโขง ผลกระทบจากเขื่อนผลิตไฟฟ้า ไซยะบุรี
เขื่อนในจีนลดการระบายน้ำ และการทดสอบเดินเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่เขื่อนไซยะบุรีใน สปป. ลาว ที่ตั้งอยู่ห่างจาก อ.เชียงคาน จ.เลย ไปประมาณ 200 กิโลเมตร เป็นสาเหตุที่ทำให้สถานการณ์ของระดับน้ำในแม่น้ำโขงอยู่ในขั้นวิกฤต
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ระบุในหนังสือที่เผยแพร่ต่อสื่อมวลชนว่า เขื่อนไซยะบุรีมีการทดสอบในช่วงระหว่างวันที่ 15-29 ก.ค. โดย "เก็บกักน้ำบางส่วน" ในช่วงวันที่ 9-17 ก.ค. จึงทำให้แม่น้ำโขงในประเทศไทยแห้งลงตั้งแต่ อ.เชียงคาน และ อ.ปากชม จ.เลย ไปจนถึง จ.หนองคาย บึงกาฬ และนครพนม
แม่น้ำโขงได้ฉายาว่าเป็น Mighty Mekong หรือสายน้ำที่อุดมสมบูรณ์ แต่วันนี้แม่น้ำโขงไม่ได้เป็นอย่างนั้นอีกแล้ว แต่กลายเป็น Hungry Mekong แปลว่า ภาวะไร้ตะกอน พูดง่าย ๆ ก็คือเกิดภาวะ สายน้ำที่หิวโหย เพราะหลังจากเขื่อนไซยะบุรีสร้างเสร็จก็มีการกักเก็บน้ำไว้เหนือเขื่อนตั้งแต่เดือนกรกฎาคมจนกระทั่งน้ำท้ายเขื่อนแห้งและปลาตาย
![ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijM75KaldYzpQkaS9oOBupUZk0YjTV.jpg)
ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช
ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช
ลูกพะยูนเกยตื้น “มาเรียม นางฟ้าแห่งท้องทะเลอันดามัน”
ในช่วงเดือนเม.ย.และก.ค.ที่ผ่านมา หลายคนคงจะทราบข่าวพะยูนมาเรียม ลูกพะยูนเพศเมีย อายุประมาณ 7 เดือน และยามีล ลูกพะยูนเพศผู้ อายุประมาณ 3 เดือน ที่ออกมาเกยตื้นหน้าหาด จ.กระบี่ ซึ่งลูกพะยูนทั้ง 2 ก็ได้จากพวกเราไปแล้วเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
จากการพิสูจน์หาสาเหตุการตายของมาเรียม ทีมสัตวแพทย์พบขยะพลาสติกชิ้นเล็ก ๆ ขวางลำไส้ จนมีอาการอุดตันบางส่วนและอักเสบ ทำให้มีแก๊สสะสมเต็มทางเดินอาหาร มีการติดเชื้อในกระแสเลือด ปอดเป็นหนอง ตามมา
ข่าวนี้ได้สร้างความเศร้าสลดให้กับหลาย ๆ คน โดยเฉพาะทีมเจ้าหน้าที่ที่ดูแลมาเรียมและยามีล เพราะทุกคนทำงานอย่างเต็มที่นับตั้งแต่ที่เจอมาเรียมครั้งแรก การตายของมาเรียมในครั้งนี้ได้สร้างแรงกระเพื่อมให้สังคมไทยได้ตระหนักถึงปัญหาขยะพลาสติกอีกครั้ง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 114 วัน "มาเรียม" ทูตสันถวไมตรีแห่งท้องทะเลไทย
ขยะพลาสติกฆ่าสัตว์ทะเล สัตว์ทะเลหายากเกยตื้นเฉลี่ยปีละ 400 ตัว
ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มีข่าวเกี่ยวกับสัตว์ทะเลหายากเกยตื้น ออกมาให้เห็นกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งวาฬ เต่าทะเล และพะยูน ซึ่งสาเหตุการตายของสัตว์เหล่านี้ส่วนหนึ่งเกิดจากติดเครื่องมือประมงและขยะพลาสติก
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) รายงานสถานการณ์สัตว์ทะเลหายาก ที่มีความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ได้แก่ เต่าทะเล พะยูน โลมา และวาฬ ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดความสมบูรณ์ของระบบนิเวศ โดยจากผลการช่วยเหลือสัตว์ทะเลหายากเกยตื้น 3 ปีย้อนหลัง พบว่ามีสัตว์ทะเลหายากเกยตื้นเฉลี่ยปีละ 400 ตัว แบ่งเป็นเต่าทะเล 54% โลมาและวาฬ 41% และพะยูน 5%
ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2546–2560) พบสัตว์ทะเลหายากเกยตื้นรวม 3,702 ตัว ส่วนสาเหตุการตายของเต่าทะเลและพะยูนเกิดจากติดเครื่องมือประมงและขยะพลาสติกสูงเป็นอันดับ 1 ส่วนกลุ่มโลมาและวาฬป่วยตามธรรมชาติมากกว่า 60%
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijM75KaldYzpQkaS9x7GiOxSTZpPrR.jpg)
“ชะตากรรมนกชนหิน” หนุนเป็นสัตว์ป่าสงวนลำดับที่ 20
นกชนหิน ถือเป็นสัตว์โบราณและเชื่อกันว่ามีความเก่าแก่ถึงขนาดเรียกได้ว่าเป็นบรรพบุรุษของนกเงือกแห่งเอเชีย ที่ยังคงมีชีวิตอยู่มาจนถึงปัจจุบัน แต่จากความเชื่อผิด ๆ ทำให้หัวนกชนหินมีค่าหัวที่สูงเป็นอย่างมาก
ปัจจุบันการล่านกชนหินพบมากที่สุดบนเกาะบอร์เนียว ประเทศอินโดนีเซีย เนื่องจากเป็นพื้นที่ชุกชุมที่พบนกชนหิน แต่ก็ถูกไล่ล่าจนแทบหมดไปจากเกาะบอร์เนียว ความต้องการของตลาดที่เพิ่มสูงขึ้นสวนทางกับประชากรนกเงือกที่ใกล้จะสูญพันธุ์ ทำให้ขบวนการล่านกชนหิน จึงพุ่งเป้ามาที่ประเทศไทย
หลายฝ่ายเริ่มแสดงความกังวล เพราะกลัวว่านกชนหินจะสูญพันธ์ุ มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ในฐานะองค์กรด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จึงจัดแคมเปญร่วมลงชื่อเพื่อสนับสนุนให้นกชนหิน เป็นสัตว์ป่าสงวนลำดับที่ 20 ของไทย โดยมีผู้ร่วมลงชื่อมากกว่า 26,000 รายชื่อ และได้ยื่นต่อรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติ เมื่อวันที่ 31 ต.ค.62
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ถูกสั่งล่า! เสี่ยงสูญพันธ์ุ ดัน "นกชนหิน" เป็นสัตว์ป่าสงวน
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijM75KaldYzpQkaS95peWOSjWgSDTq.jpg)
โศกนาฏกรรมช้างป่าตกเหว “น้ำตกเหวนรก” ตาย 11 ตัว
จากการรวบรวมข้อมูลของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในช่วง 33 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีช้างตกเหวน้ำตกเหวนรก อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ รวมทั้งหมด 26 ตัว และเหตุการณ์ล่าสุดเมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมามีช้างตกเหวเพิ่มอีก 11 ตัว
มีการสันนิษฐานสาเหตุการตายของช้างป่าครั้งนี้ คาดว่าเกิดจากเพนียดชำรุด 40 ต้น จาก 250 ต้น โดยเฉพาะจุดท่าข้ามที่ช้างใช้จึงเสี่ยงต่อการพลัดตกเหว ประกอบกับปริมาณน้ำที่ค่อนข้างแรงมาก โดยคาดว่ามีลูกช้างพลัดตกก่อน ไม่ใช่การตายจากการล่า หรือการรบกวนของคน เพราะในบริเวณดังกล่าวเป็นเส้นทางที่ช้างใช้เป็นประจำอยู่แล้ว
จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้กรมอุทยานฯ ต้องหารือกับหลายองค์กรเพื่อไม่ให้โศกนาฎกรรมในครั้งนี้กลับมาซ้ำรอยอีกครั้ง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง สลด! เจอซากช้างเขาใหญ่ตกเหวนรกเพิ่ม 5 ตัว รวมตาย 11 ตัว
รื้อโครงการเก่ากระทบสิ่งแวดล้อม ท่าเรือปากบารา ทางเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา อุโมงค์ผ่านน้ำเขื่อนศรีนครินทร์
แม้จะมีกระแสคัดค้านทำให้โครงการสะดุด แต่ด้านศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.กระทรวงคมนาคม ก็เตรียมฟื้นโครงท่าเรือนำลึกปากบารา จ.สตูล อีกครั้ง หากโครงการดังกล่าวเกิดขึ้น นอกจากต้องเพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา และทำให้เกิดเส้นทางเดินเรือสินค้าผ่านอุทยานแห่งชาติทางทะเลตะรุเตา ซึ่งเป็นบริเวณที่มีทรัพยากรทางทะเลที่ดีที่สุดอาจจะถูกทำลายลง
นอกจากนี้ยังมีโครงการพัฒนาแนวทางการผันน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์ไปยังอ่างเก็บน้ำลำอีซู เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งโครงการดังกล่าวจะตัดผ่านใจกลางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ และเป็นการรบกวนถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าอย่างรุนแรง
และโครงการทางเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา โครงการที่ภาครัฐต้องการจัดระเบียบแม่น้ำเจ้าพระยา และพัฒนาเป็นแลนด์มาร์กใหม่ของประเทศ การทำสิ่งก่อสร้างรุกล้ำลงไปในแม่น้ำ จะทำลายประวัติศาสตร์และสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมของชาติ นอกจากนี้ยังอ่อนไหวต่อสัณฐานลำน้ำ การกัดเซาะชายฝั่ง และการตกตะกอนในลำน้ำ
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijM75KaldYzpQkaS98lSkg8GgCmTu4.jpg)
ฟาร์มไก่ปารีณา รุกพื้นที่ป่า 1,700 ไร่
“ดิฉันทำ MOU กับนักข่าวแล้วค่ะ” วลีคุ้นหูที่ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ใช้ตอบคำถามนักข่าวเมื่อถูกถามถึงฟาร์มไก่ “เขาสนฟาร์ม” ที่อาจบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน หลังจากที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ในฐานะคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2563 ยื่นต่อ ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบที่ดินของปารีณา 1,700 ไร่ ด้วยการครอบครองพื้นที่โดยใช้หลักฐานเป็น ภ.บ.ท.5 ในพื้นที่ จ.ราชบุรี ว่าถูกต้องหรือไม่
ปารีณาอ้างว่าได้เข้าไปครอบครองที่ดินผืนดังกล่าวนานนับสิบปีแล้ว โดยอ้างว่าเป็นที่ดินที่รัฐบาล โดยกรมป่าไม้อนุญาตให้เข้าไปทำกินได้ และได้เสียภาษีดอกหญ้ามามากกว่า 10 ปี แต่ภายหลังก็ออกมาบอกอีกอย่างว่าการเข้าครอบครองที่ดินของเธอนั้นไม่ได้รับอนุญาตจากใคร เพียงแต่เป็นการเข้าไปครอบครองทำกินเฉย ๆ
2 ธ.ค.2562 กรมป่าไม้ แถลงสรุปคดีการตรวจสอบ พร้อมแจ้งความดำเนินคดี น.ส.ปารีณา ที่ บก.ปทส. ตามความผิด พ.ร.บ. 4 ฉบับ ได้แก่ พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 และ พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2535 นั่นแปลว่าปารีณาเข้าข่ายการกระทำความผิดจริง แล้วอย่างนี้ปารีณาจะรอดหรือไม่รอด ?
คำตอบก็คือ “รอด” หลังจากที่ข่าวเริ่มแดง ปารีณาได้ยื่นหนังสือถึงส.ป.ก. เพื่อจะขอส่งคืนพื้นที่ทั้งหมดกว่า 600 ไร่ ซึ่งเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.2562 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ก็ออกมาย้ำอีกครั้งว่าคดีของปารีณาจบลงแล้ว หลังจากที่ปารีณายื่นหนังสือเพราะได้เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย และกระบวนการกรมป่าไม้ ส่วนอีก 600 ไร่ ยังต้องรอตีความต่อไป ว่าผลจะออกมาในรูปแบบไหน
![](https://news.thaipbs.or.th/media/BRpLwT0TYaGXOF4tXhaDD0tYhUYeYmbMJ2v8ucAl62qcJ.jpg)
ฉลองไม่ฉลาม รัฐบาลจัดโต๊ะจีนเสิร์ฟซุปหูฉลาม
งานเลี้ยงอาหารค่ำสุดหรูระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ที่มีการเสิร์ฟเมนูซุปหูฉลามหม้อดิน เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 62 ที่ผ่านมา ช่างสวนกระแสนักอนุรักษ์และสังคมโลกอย่างแท้จริง นี่อาจเป็นเสียงสะท้อนได้ดีว่าการพยายามรณรงค์เลิกบริโภคหูฉลามอาจยังไม่ไปถึงบรรดาผู้นำรัฐบาลของไทย
รัฐบาลจีนประกาศแบนการเสิร์ฟเมนูหูฉลาม เมื่อปี 2555 เพื่อสร้างบรรทัดฐานในการปกป้องสัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธ์ุ เมื่อกลางปีที่ผ่านมาประเทศแคนาดาได้ผ่านกฎหมายจำกัดการค้าหูฉลามด้วยการแบนการส่งออกและนำเข้าในประเทศ สะท้อนให้เห็นวาระเร่งด่วนเพื่อปกป้องประชากรฉลาม
งานนี้องค์กรอนุรักษ์ และดารานักแสดงก็ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมในการจัดงานของรัฐบาล โดยเฉพาะป้อง ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ ได้ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลสร้างบรรทัดฐานใหม่ ในการปกป้องฉลามในฐานะตัวแทนฑูตด้านฉลาม องค์กรไวล์ดเอด (WildAid)
ทั้งนี้มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ระบว่า ข่าวทั้งหมดที่เป็นการเรียงลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อน-หลัง ไม่ใช่คะแนนนิยมแต่อย่างใด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ชาวโซเชียล หนุนหยุดเมนู "หูฉลาม" ในงานเลี้ยง