วันนี้ (20 ธ.ค.2562) กรมควบคุมมลพิษ รายงานผลการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยกรมควบคุมมลพิษร่วมกับกรุงเทพมหานคร เวลา 13.00 น. ตรวจวัดค่าได้ 28 - 75 มคก./ลบ.ม. (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) ปริมาณฝุ่นละอองมีแนวโน้มลดลงจากช่วงเช้าของวันนี้ โดยพบเกินค่ามาตรฐานและอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 5 สถานี (พื้นที่สีส้ม) ได้แก่
- ริมถนนพระราม 3-เจริญกรุง เขตบางคอแหลม 75 มคก./ลบ.ม.
- ริมถนนเจริญนคร เขตคลองสาน 51 มคก./ลบ.ม.
- แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ 51 มคก./ลบ.ม.
- แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ 58 มคก./ลบ.ม.
- ต.ปากน้ำ อ.เมือง สมุทรปราการ 53 มคก./ลบ.ม.
สำหรับประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวควรเฝ้าระวังสุขภาพ ลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง และติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองอย่างใกล้ชิด สำหรับพื้นที่อื่นๆ ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบคุณภาพอากาศอยู่ในระดับดีมาก 1 สถานี คือ เขตจอมทอง คุณภาพอากาศอยู่ในระดับดี 25 สถานี และระดับปานกลาง 40 สถานี
ทั้งนี้ กรมควบคุมมลพิษจะรายงานสถานการณ์และแจ้งประสานข้อมูล ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการควบคุม กำกับ ดูแล ภารกิจตามมาตรการ "ภายใต้แผนปฏิบัติการ ขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ อย่างเร่งด่วน" เพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองให้กลับสู่สถานการณ์ปกติ
บีทีเอส-กทม.ติดตั้งระบบพ่นละอองน้ำบริเวณสถานีรถไฟฟ้า แก้ฝุ่น
ขณะที่นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส เปิดเผยว่า รถไฟฟ้าบีทีเอส ร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ดำเนินการติดตั้งระบบพ่นละอองน้ำที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส เพื่อร่วมแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก ที่กระจายอยู่ในระดับเกินมาตรฐาน PM 2.5 และ PM 10 โดยได้ติดตั้งเพิ่มบริเวณสถานีศาลาแดง สถานีสยาม และสถานีอโศก ซึ่งมีประชาชนสัญจรไปมาบริเวณดังกล่าวหนาแน่น หลังจากก่อนหน้านี้มีการติดตั้งที่สถานีสะพานควาย ซึ่งสามารถช่วยลดการกระจายตัวของฝุ่นละอองขนาดเล็กได้เป็นอย่างดี

สำหรับหลักการทำงานของเครื่องพ่นละอองน้ำนั้น จะเป็นการจ่ายน้ำผ่านรูขนาดเล็กมาก เพื่อให้หยดน้ำที่พ่นออกมามีการแตกตัวกระจายเป็นอณูเล็กๆ โดยใช้แรงดันน้ำประมาณ 70 bar ผ่านหัวพ่นน้ำ ซึ่งจะสามารถสร้างละอองไอน้ำขนาดเล็กมาก (หมอกไอน้ำ) ทำให้สามารถดักจับละอองฝุ่นขนาดเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ
