วันนี้ (29 ธ.ค.2562) นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน กล่าวว่า ปีนี้มีการดำเนินคดีเพิ่มขึ้น ร้อยละ 30 โดยปัจจัยการเกิดอุบัติเหตุกรณีใหญ่ช่วงเดินทางมักเกิดจากการหลับในเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากดื่มก่อนวันเดินทาง ซึ่งในคืนนี้คาดการณ์ว่า อาจมีการฉลองมากขึ้นเนื่องจากเดินทางถึงบ้านแล้ว ในขณะที่จุดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็สามารถหาได้ง่าย แต่สำหรับมาตรการควบคุมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังมีข้อจำกัด โดยเฉพาะการขายเครื่องดื่มให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ซึ่งเมื่อวานนี้ (28 ธ.ค.2562) เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจจับไปแล้วหลายคดีและเป็นครั้งแรกที่นำมาตรการนี้มาปฎิบัติจับจริงหลังมีกฎหมายมานานแต่ไม่ถูกบังคับใช้
ด้วยเหตุนี้ปีนี้จึงเน้นความเข้มงวดกับร้านค้าและผู้ที่สนับสนุนให้เยาวชนดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งมีความผิด และอาจถูกจับดำเนินคดีหากเชื่อมโยงถึงร้านค้าและผู้สนับสนุนให้เด็กมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากมีคดีตัวอย่าง การสนับสนุนให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จนเกิดอุบัติเหตุทางถนน ที่ จ.น่าน ส่วนญาติถูกดำเนินคดีความผิดฐานสนับสนุน ให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ถนนในหมู่บ้านมงคลนิมิต ต.ผาสิงห์ อ.เมืองน่าน เป็นจุดเกิดอุบัติเหตุจักรยานยนต์แฉลบล้มทำให้เยาวชนหญิงอายุ 17 ปี บาดเจ็บที่ศีรษะจนหมดสติ เมื่อคืนที่ผ่านมา (28 ธ.ค.2562) และเป็นการตรวจจับครั้งแรกที่ตรวจเข้มในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้หลังมีกฎหมายมานานและต้องการรณรงค์สร้างแรงกระตุ้นให้ดำเนินมาตรการดังกล่าวตลอดทั้งปีไม่ใช่เพียงช่วงเทศกาลเท่านั้น
พล.ต.ต.สัณห์ โพธิ์รักษา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน ระบุว่า เหตุการณ์นี้อาจเป็นเพียงอุบัติเหตุทั่วไป แต่เพราะลมหายใจของผู้บาดเจ็บมีกลิ่นแอลกอฮอล์ เจ้าหน้าที่จึงตรวจหาระดับแอลกอฮอล์ในเลือด พบว่า เยาวชนหญิงคนดังกล่าวดื่มสุราจริงโดยดื่มกับเพื่อนชายและพี่สาวของเพื่อนชาย ซึ่งเป็นผู้ที่ซื้อสุรามาให้ดื่ม ก่อนจะขับขี่จักรยานยนต์กลับบ้านจนประสบอุบัติเหตุ เยาวชนคนดังกล่าวจึงถูกดำเนินคดีในความผิดฐานขับขี่รถโดยประมาท ส่วนเพื่อนชาย ซึ่งมีอายุ 21 ปี รวมถึงพี่สาวของเพื่อนชาย มีความผิดฐานสนับสนุนให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546
นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน ด้านบริการปฐมภูมิ ระบุว่า ส่วนใหญ่ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ จากการเมาแล้วขับ มักจะคิดว่าตัวเองไม่เมา สามารถขับขี่รถได้ แต่แอลกอฮอล์ที่ยังค้างอยู่ในกระเพาะและลำไส้ จะค่อย ๆ ดูดซึมแอลกอฮอล์จนถึงระดับ 200 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ขึ้นไปซึ่งเป็นระดับที่หมดสติได้ทันที