วันนี้ (14 ม.ค.2563) กลุ่มนิสิตนักศึกษาบางส่วน แสดงข้อความไล่ฝุ่นพร้อมใส่หน้ากาก N95 ในกิจกรรม NotMyPM (2.5) บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ สะท้อนถึงปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ที่ทําให้เกิดวิกฤตคุณภาพอากาศในกรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ และอีกหลายเมืองทั่วประเทศ ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตและสุขภาพของประชาชน และแม้รัฐบาลได้ประกาศให้ปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 เป็นวาระแห่งชาติเมื่อวันที่ 12 ก.พ.2562 แต่ผ่านมาเกือบหนึ่งปี ปัญหาฝุ่นยังคงกลับมาวิกฤตซ้ำรอยเดิมอีกครั้ง
ตัวแทนนิสิตนักศึกษา ระบุว่า แม้ปัญหาฝุ่น PM2.5 จะเริ่มรุนแรงมากขึ้น แต่ภาครัฐกลับไม่มีประกาศหรือมาตรการเฝ้าระวังอย่างชัดเจน รวมถึงไม่พบการสนับสนุนเร่งด่วนที่เป็นรูปธรรมจากรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ส่งผลให้ประชาชนบางส่วนไม่สามารถรับมือกับปัญหาได้ทันเวลา

การรวมตัวทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ในวันนี้ เพื่อแสดงพลังและเรียกร้องให้ภาครัฐและผู้มีอํานาจตอบสนองกับปัญหาฝุ่น PM2.5 ใน 3 ด้าน ดังนี้
1. ด้านการรับมือในระยะเร่งด่วน เรียกร้องให้
- ภาครัฐกระจายข้อมูลข่าวสารและสร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชนอย่างทั่วถึง เพื่อให้ประชาชน เตรียมพร้อมและรับมือเมื่อเกิดสถานการณ์ฝุ่นละอองอย่างกะทันหัน
- หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องแจ้งสถานการณ์ฝุ่นละอองผ่าน SMS โทรศัพท์เคลื่อนที่ของประชาชนอย่างรวดเร็วและทันสถานการณ์
- ระบบขนส่งมวลชน ทั้งรถขนส่งสาธารณะ รถไฟฟ้า แจ้งเตือนสถานการณ์ฝุ่นละอองให้ผู้ใช้บริการรับทราบ ผ่านโทรทัศน์ที่ติดตั้งบนรถโดยสาร
- รายงานค่าดัชนีคุณภาพอากาศต้องเป็นการรายงานภายในเวลา 3 ชั่วโมงย้อนหลัง ให้สอดคล้องกับระยะเวลาจริง
- ในกรณีที่สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 วิกฤตหนัก ภาครัฐต้องควบคุมให้กิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่นพิษทุกชนิดหยุดลงโดยทันที รวมถึงให้โรงเรียน สถานประกอบการ โรงงาน หยุดงานชั่วคราวจนกว่าปัญหาจะทุเลา
- โรงงานอุตสาหกรรมต้องจัดทําบัญชีระบายมลพิษ โดยแจ้งให้ภาครัฐและเปิดเผยต่อภาคประชาชน เพื่อทราบปริมาณควันพิษที่เกิดจากกระบวนการผลิตอันนําไปสู่การป้องกันและดําเนินการทางนโยบายต่อไป
2. ด้านการรับมือในระยะสั้น เรียกร้องให้
- รัฐบาลต้องเพิ่มจุดตรวจ PM2.5 ให้ทั่วประเทศ และมีมาตรฐานเดียวกัน
- ภาครัฐต้องสนับสนุนและอุดหนุนราคาหน้ากากอนามัยหรืออุปกรณ์ฟอกอากาศ เพื่อลดภาระของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษ รวมถึงอํานวยความสะดวกประชาชนที่ไม่สามารถเข้าถึงอุปกรณ์เหล่านี้ได้
- หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องสนับสนุนการทําวิจัยเพื่อหาสาเหตุของฝุ่น PM2.5 เนื่องจากจนถึงปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยที่ระบุออกมาชัดเจนว่าสาเหตุที่แท้จริงของฝุ่นพิษเกิดจากอะไร ส่งผลให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด
- รัฐบาลดําเนินการทางการทูตในเชิงรุก กรณีปัญหาในระดับภูมิภาคหรือระดับนานาชาติ เช่น กรณีไฟป่าจากประเทศอินโดนีเซีย
- รัฐบาลพิจารณาผลกระทบจากโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ที่ขยายพื้นที่ อุตสาหกรรมโดยขาดการวางผังเมืองร่วมกับคนในท้องที่ รวมถึงเปิดโอกาสให้นายทุนข้ามชาติตั้งโรงงานอุตสาหกรรม ปล่อยควันพิษที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพประชาชนโดยไม่มีการตรวจสอบซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทําให้เกิดปัญหาฝุ่น PM2.5 เรื้อรัง
3.ด้านการรับมือในระยะยาว เรียกร้องให้
- รัฐบาลออกกฎหมายอากาศสะอาด (Clean Air Act) ที่เป็นรูปธรรมและใช้ได้จริง โดยร่วมมือกับหน่วยงาน และองค์กรด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อแก้ไขปัญหามลพิษที่เกิดขึ้นในประเทศไทยโดยเฉพาะ
- ปรับมาตรฐานฝุ่นละออง PM2.5 ให้ต่ำลง อ้างอิงตามองค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) ทั้งมาตรฐานฝุ่นละออง PM2.5 เฉลี่ย 1 ปี และเฉลี่ย 24 ชั่วโมง รวมถึงเกณฑ์ดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) ด้วย เนื่องจากประเทศไทยกําหนดมาตรฐานที่ยอมรับได้ดังกล่าวสูงกว่าข้อแนะนําขององค์การอนามัยโลกมาก ทําให้รัฐไม่สามารถแก้ปัญหาฝุ่นละอองที่มาจากภาคอุตสาหกรรม หรือภาคอื่น ๆ ได้อย่างจริงจัง และทําให้การแสดงผลค่าฝุ่นละอองในประเทศไทยผ่าน AQI มีระดับความรุนแรงที่ต่ำลง เมื่อเทียบกับความเป็นจริง
- ภาครัฐต้องต้องจัดบริการขนส่งสาธารณะที่ราคาถูกและเข้าถึงได้ เพื่อสนับสนุนให้คนใช้บริการรถสาธารณะ ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว
- ภาครัฐต้องออกแบบและวางผังเมืองที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และแก้ไขหรือวางผังเมืองใหม่โดยคํานึงถึงการลดปัญหามลพิษทางอากาศ รวมถึงกระจายอํานาจการบริหารจัดการสู่ท้องถิ่นและกระจายความเจริญด้านวัตถุสู่ที่อื่นนอกจากกรุงเทพมหานครฯ เพื่อเพิ่มอํานาจประชาชนในการแก้ปัญหาเฉพาะพื้นที่และลดความแออัดและการกระจุกตัวของประชากร
- ภาครัฐต้องควบคุมวิถีการผลิตที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของภาคเอกชนอย่างเคร่งครัด และออกกฎหมายควบคุมการผลิตของภาคเอกชนเพื่อหลีกเลี่ยงการผลักภาระให้ประชาชน
- ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนต้องจัดตั้งองค์กรดูแลด้านสิ่งแวดล้อมที่มีอํานาจครอบคลุมทั่วถึงในการดูแลและแก้ไขปัญหาทางสิ่งแวดล้อมทั้งหมด และการปฏิบัติขององค์กรต้องเป็นไปอย่างรวดเร็วและโปร่งใส ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน

ทั้งนี้ กลุ่มนิสิตนักศึกษาจะยื่นข้อเสนอทั้งหมดเป็นหนังสือต่อศูนย์ร้องทุกข์นายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหามลพิษทั้งในปัจจุบันและอนาคต เพื่อทวงคืนสิทธิในการหายใจ การเข้าถึงสภาพแวดล้อมที่ดี ทวงสิทธิในการมีชีวิตอยู่ของทุกคนกลับคืนมา
แท็กที่เกี่ยวข้อง: