วันนี้ (15 ม.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุชา วงศ์อยู่ และน.ส.วิไลวรรณ ยังรอด พ่อน้องไทตัลวัย 2 ขวบ หนึ่งใน 3 ผู้เสียชีวิตจากจากเหตุการณ์ชิงทรัพย์ร้านทอง จ.ลพบุรี เปิดใจกรณีสื่อช่องหนึ่งนำเสนอข่าวการทวงถามหนี้ และการขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัว
น.ส.วิไลวรรณ กล่าวว่า ประเด็นดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากมีสื่อสำนักหนึ่ง ขอสัมภาษณ์เรื่องการเก็บกระดูกข้องน้องไตทัล และเรื่องเงินบริจาค ซึ่งตัวเองได้ให้สัมภาษณ์แล้วเสร็จ และผู้สื่อข่าวได้เก็บไมค์จากนั้นได้ตั้งคำถามแม่ว่ามีประเด็นดราม่า 2 ประเด็นเรื่องยืมเงินเขามาไม่ได้ใช้หนี้ แต่เรายืนยันว่าไม่มี แต่เขานำโทรศัพท์มาให้ดู จึงบอกว่าถ้ามีโพสต์แบบนี้ขอให้พูดกับพ่อของน้องไทตัลเอง จากนั้นก็ถามเรื่องแฟนเก่า ซึ่งก็ยืนยันว่าเขาเลิกกันแล้ว
โดยประเด็นที่เขาถามเป็นเรื่องที่ไม่ได้จ่อไมค์ แต่เป็นการถามนอกรอบ ขณะที่ประเด็นที่ขอสัมภาษณ์เรื่องการเก็บกระดูก และเงินบริจาคก็ไม่ได้นำเสนอในประเด็นนี้
ด้านนายอนุชา กล่าวว่า พอรู้ว่ามีเรื่องหนี้สินจากผู้สื่อข่าว ก็ติดต่อขอคุยกับผู้สื่อข่าวคนนั้น และบอกว่าติดหนี้จริงเป็นการเล่นแชร์ เลยบอกว่ามีเงินที่พอจะใช้หนี้ และจัดการคืนหนี้จำนวนนั้นให้ไป และได้โอนเงินคืนให้เจ้าหนี้เรียบร้อยแล้วเมื่อคืนนี้ แต่พอประมาณ 21.00 น. มาออกข่าวว่ามีเจ้าหนี้มาทวงหนี้ จึงไม่เข้าใจว่าสื่อสำนักนี้ ตั้งใจเสนอข่าวเจ้าหนี้มาทวงหนี้อีกเพื่ออะไร เหมือนนำข้อมูลเรื่องหนี้สินของตนเองไปประจานต่อสาธารณะ ทั้งๆที่ไม่ได้คิดโกง พร้อมจ่ายเงินใช้หนี้ และได้ใช้หนี้ไปแล้ว
ตอนนี้เราสูญเสียอยู่ แต่ไม่ได้เอาความสูญเสียมาเป็นเกราะป้องกันว่าใครทำอะไรไม่ได้ น่าจะให้เกียรติความรู้สึกกัน ขอเคารพสิทธิความเป็นส่วนตัว การจบหนี้แบบหลังไมค์ก็ได้โดยไม่มีข่าว
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijM75IX4djWU92L7zGbY7P5Jk5J9g4.jpg)
ถามหาจรรยาบรรณสื่อขุดเรื่องส่วนตัว
นายอนุชา กล่าวอีกว่า เชื่อว่าทุกคนอาจจะรู้ข่าวนี้ แต่สื่อหลายสำนักไม่ทำประเด็นนี้ ผมขอบคุณสื่อหลายคนที่ให้เกียรติแม่เขา ไม่ทำเรื่องนี้ ผมบอกว่าอะไรที่อยากเยียวยาความรู้สึกแม่ ผมอยากทำ แต่ไม่อยากให้มีอะไรมาบั่นทอน และการมาขุดคุ้ยประวัติเรื่องภรรยาเก่า ทั้งเรื่องลูกชายของผมกับแฟนเก่า ความรู้สึกเด็ก ความรู้สึกของแม่ที่สูญเสียลูกชายไป
ผมอยากถามจรรยาบรรณของบางสื่อว่าอยากได้แค่ข่าวหรือ แล้วไม่คิดหรือว่าเราสูญเสีย ซึ่งไม่ใช่ว่าทำอะไรเราไม่ได้ แต่ไม่อยากให้เอาเราไปประจาน ลูกผมเรียน ม.1 ลูกจะรู้สึกอย่างไร และการที่มาถามเรื่องแม่เขาก็รู้
เพราะตอนที่มาสัมภาษณ์เป็นอีกเรื่อง และเขาไม่ได้ออกข่าว เมื่อเช้ามีคนติดต่อขอสัมภาษณ์รายการสด แต่บอกว่าไม่ขอสัมภาษณ์แล้ว พร้อมทั้งยังพูดคุยกับนักข่าวคนที่มาสัมภาษณ์ แต่เขาบอกว่าไม่ผิด และบอกว่าเป็นหน้าที่ต้องนำเสนอความเป็นกลาง จึงอยากฝากว่าควรจะจบโดยที่ไม่มีใครต้องจบ
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijM75IX4djWU92L7zELW4KLU0ptUu3.jpg)
นายอนุชา กล่าวว่า พี่ทุกๆ คนดีมาก แต่บางคนไม่โอเค และนักข่าวคนนั้นบอกว่าต้องนำเสนอข่าว และตอนนี้กลับมาเพิ่มให้มีผลกระทบกับลูกชายอีกคนนหนึ่ง ไม่รู้จะพูดว่าอะไร จึงอยากตั้งคำถามว่า สิ่งเหล่านี้มันผิดจริยธรรมสื่อหรือไม่
เข้าใจว่าสื่อต้องทำหน้าที่ เป็นสิทธิของเจ้าหนี้จะมาทวงถาม แต่ควรมีขอบเขตของการทำงานหรือไม่ กำลังดูเกี่ยวกับเรื่องข้อกฎหมายว่าจะดำเนินการอย่างไรได้บ้าง หรือจะขอความเป็นธรรม ขออย่าซ้ำเติมความสูญเสีย แค่นี้สภาพจิตใจของก็แย่มาก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปูพรม 10 จุดควานหาผู้ก่อเหตุชิงทองลพบุรี
รอง ผบ.ตร.ยันยังไม่ออกหมายจับคดีชิงทองลพบุรี