วันนี้ (23 ก.พ.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 2 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการสัมมนาพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อเตรียมการและซักซ้อมความเข้าใจก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ ที่ประชุมได้สรุปรูปแบบและแนวทางการตอบโต้การอภิปรายของฝ่ายค้าน รวมถึงการกำชับเรื่องข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ก่อนที่จะมีการหารือ 3 ฝ่าย คือ วิปรัฐบาล วิปฝ่ายค้าน และประธานสภาผู้แทนราษฎร ในวันพรุ่งนี้ เพื่อสรุปกรอบและเงื่อนเวลาการอภิปรายให้เป็นที่ยุติ ก่อนจะประชุมวิปรัฐบาลเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนการอภิปรายจะเริ่มขึ้นในช่วงบ่าย
นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวยืนยันว่าการชี้แจงของรัฐมนตรีทั้ง 6 คน ไม่ได้มีข้อกังวลใดๆ และคาดการณ์ว่าการอภิปรายของฝ่ายค้าน จะหยิบยกเรื่องในอดีตขึ้นมาอภิปรายมากกว่าการบริหารราชการของรัฐมนตรีทั้ง 6 คน ที่ถูกอภิปราย มีเพียง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่จะหยิบยกเรื่องส่วนตัว และการบริหารงานปัจจุบันขึ้นมาอภิปราย แต่ก็ไม่ได้น่ากังวล เท่ากับการอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ตามญัตติของฝ่ายค้านนั้นมีเนื้อหามากที่สุด
แม้รัฐบาลจะมั่นใจในเสียงของพรรคร่วมที่จะลงมติ แต่ประธานวิปรัฐบาล ยอมรับว่า มีข้อกำชับของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ให้พรรคร่วมรัฐบาลควบคุมเสียงในการลงมติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน แต่ไม่ขอคาดการณ์ล่วงหน้าว่าจะมีพรรคร่วมรัฐบาลโหวตสวนมติวิปรัฐบาลหรือไม่
ขณะที่ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รองประธานวิปรัฐบาล และในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เตรียมนำข้อหารือของวิปรัฐบาลไปชี้แจงทำความเข้าใจกับ ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งการชี้แจงในสภาและการลงมติจะต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งในมติพรรคและมติวิปรัฐบาล ซึ่งหากมีการโหวตสวนก็จะต้องมีการพิจารณาดำเนินการต่อไป
พร้อมกับเปิดเผย 3 แนวทางในการชี้แจงการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ว่าวิปรัฐบาลขอให้รัฐมนตรีทุกคน ชี้แจงทุกประเด็นให้ครอบคลุม และให้มีวอร์รูมตอบโต้ เพื่อสื่อสารข้อมูลข้อเท็จจริงให้สาธารณชนรับทราบ นอกเหนือจากการชี้แจงในเวทีสภาฯ ตลอดจนการควบคุมเสียงโหวตของแต่ละพรรคการเมือง