"หมอชลน่าน" จี้นายกฯ ลาออก ละเมิดสื่อ-ละเมิด 6.3 ล้านเสียง

การเมือง
25 ก.พ. 63
21:29
1,228
Logo Thai PBS
"หมอชลน่าน" จี้นายกฯ ลาออก ละเมิดสื่อ-ละเมิด 6.3 ล้านเสียง
หมอชลน่านอภิปรายจวก พล.อ.ประยุทธ์หลงตัวเอง เข้าสู่อำนาจไม่ชอบธรรม ละเมิดสิทธิเสรีภาพสื่อ และคะแนนเสียงของนักศึกษา-ประชาชน 6.3 ล้านเสียง

วันนี้ (25 ก.พ.2563) เวลา 17.53 น. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.เพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ผมจะเรียกท่านว่า พล.อ.ประยุทธ์ เรียกว่า พลเอก เพราะท่านจะได้มีจิตสำนึก ประชาชนอยากให้ผมมาอภิปรายไม่ไว้วางใจให้ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในตำแหน่งต่อไป

คาดหวังให้พลเอกท่านนี้ออกจากตำแหน่งให้ได้ แต่อาจจะสิ้นหวัง เพราะพฤติการณ์จากที่ผ่านมาราชอาณาจักรไทยประสบความวิบัติล้มเหลว จะอยู่ในโลกนี้ไม่ได้ แต้ถ้าท่านออกไปตั้งแต่วินาทีนี้ สิ่งที่ผมพูดจะไม่เกิดขึ้น

นพ.ชลน่านกล่าวว่า อภิปรายที่ตัวบุคคล เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี เพราะการเข้าสู่อำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ มาดำรงตำแหน่งนี้ เข้ามาสู่อำนาจโดยไม่ชอบธรรม เรื่องของการใช้อำนาจที่ไม่ชอบ ทำให้ประเทศเสียหาย รวมถึงเรื่องบุคลิกภาพ ภาวะผู้นำ การตัดสินใจ

ประเทศนี้ถ้ามีคนหลงตัวเอง ฉันต้องเป็นใหญ่ ไม่มีใครใหญ่กว่าฉัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกล่าวถึงช่วงนี้ นพ.ชลน่าน ได้โชว์ภาพสไลด์ที่มีแฮชแท็ก #ผนงรจตกม ซึ่งไม่ขออ่าน เพราะคนทั่วประเทศแปลความหมายได้ #อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

ผู้นำหลงตนเอง ประเทศชาติล่มจม เพราะการใช้อำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ เป็นยุคละเมิดสิทธิเสรีภาพของสื่อ นักศึกษา และพี่น้องประชาชน 6.3 ล้านเสียงไม่มีความหมาย

ผมพูดว่าเผด็จการชัดเจน เพราะเป็นการปกครองด้วยคนๆ เดียว มีการใช้ ม.44 ออกกฎหมาย ตีความกฎหมายและเป็นตุลาการเอง แบบนี้เรียกว่าเผด็จการ ไม่ใช่ไม่ดี แต่หลายเรื่องในระบอบประชาธิปไตยไม่ดี

นพ.ชลน่านกล่าวต่อว่า กลุ่มคนรุ่นใหม่ยังมีการติดแฮชแท็กเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี เป็นการแสดงออกเรื่องสิทธิเสรีภาพของนิสิต-นักศึกษาที่แสดงออกว่าไม่ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ข้อความเหล่านี้แสดงว่าทนไม่ได้แล้ว

พล.อ.ประยุทธ์ ใช้อำนาจ ม.44 เมื่อวันที่ 17 เม.ย.2558 ฮุบเงินครู โดยแก้ไขข้อบังคับกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษฯ ยึดเงินครูเข้าในสกสค.20,237 ล้านบาท กระทบครูกว่า 2 ล้านคน ถือว่าขัดหลักนิติธรรมจากความผิดพลาดในอดีตที่ไม่อยู่ในตำแหน่ง

การใช้ ม.44 บริษัท คิงส์เกต คู่พิพาทกับราชอาณาจักรไทย ส่งผลกระทบประเทศไทยเสียหายจากตัดสินใจครั้งนี้ และมีขบวนการฮุบเหมืองทองอัครา เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.2559 ทำให้เกิดการฟ้องร้องไทย เสียหาย 30,000 ล้านบาท

กระบวนการฮุบเหมืองทอง ซึ่งมีขบวนการตั้งแต่รัฐบาลใช้ ม.44 ไปยุติพักใช้ใบอนุญาต สั่งให้ยุติการทำเหมือง ทำให้ไทยถูกฟ้องร้องในกระบวนการอนุญาโตตุลาการ และสุดท้ายกลับทำให้ไทยเสียเปรียบ เพราะอาจต้องจ่ายค่าปิดเหมือง เคยมีกรณีแบบนี้ในเวเนซูเอลา ถ้าไทยเกิดแบบนั้นรัฐบาลจะทำอย่างไร

ถ้ายังลงคะแนนให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ต่อ ประเทศจะหายนะ แต่หากลงคะแนนไม่ไว้วางใจทั้งนายกฯ และคณะรัฐมนตรี จะเปลี่ยนทั้งชุดและนำประเทศไทยเข้าสู่กระบวนการเจรจาเหมืองรอบใหม่

นพ.ชลน่านยังกล่าวว่า ลักษณะสีหน้าของนายกฯ ไม่เหมาะเป็นนายกฯ ทำหน้าตาเหมือนกับมิสเตอร์บีน ทำให้ น.ส.ปารีณา ลุกขึ้นประท้วง พร้อมระบุว่าผู้อภิปรายเริ่มมีอาการไบโพลาร์

ขอให้ท่านถอนตัวเพื่อบ้านเมือง ท้ายสุดผมไม่วางใจให้ พล.อ.ประยุทธ เอาประเทศชาติไปย่ำยี เหมือนเหยื่ออันโอชะ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง