วันนี้ (20 มี.ค.2563) จากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) เริ่มแพร่ระบาดไปทั่วโลก ส่งผลให้คนไทยที่อยู่ต่างประเทศต้องการเดินทางกลับประเทศไทย แต่รัฐบาลเริ่มประกาศมาตรการเข้มข้นให้ผู้เดินทางต้องมีใบรับรองแพทย์และประกันสุขภาพสำหรับประเทศกลุ่มเสี่ยงจึงจะสามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้
ล่าสุด ศิรดา ได้เผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Sirada K Ning บอกเล่า สถานการณ์เกี่ยวกับกระบวนการดำเนินเรื่องทำเอกสารเพื่อกลับประเทศไทย โดยระบุว่า "ประเด็นล่าสุดคือเรื่องที่ให้คนไทยในพื้นที่เสี่ยงที่อยากกลับไทยต้องขอใบรับรองนั่นนี่อย่างวุ่นวาย และประกาศอย่างกระชั้นชิด สร้างความสับสน แม้กระทั่งในหมู่ข้าราชการเอง"
ขณะนี้ที่ลอนดอน ทางสถานทูต สนร. และนักเรียนทุนด้านแพทย์และวิทยาศาสตร์บางคนต้องมาช่วยกันแก้ปัญหาหน้างานเอาเอง อาสาสมัครมาช่วยตรวจและหาอุปกรณ์กันเอง เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการหาใบรับรองแพทย์ในระยะเวลากระชั้นชิดแบบนี้
ทางออกเพิ่งคิดกันได้หลังเที่ยงคืนเมื่อคืนนี้ เพราะประกาศของสำนักงานการบินพลเรือนก็ออกมาตอนเย็นๆ เมื่อวาน ณ เวลาท้องถิ่น เป็นทางออกที่ผ่านการเจรจาต่อรองกับที่ไทยแล้วว่าให้อนุโลมเป็นการออกใบรับรองแพทย์จากหมอคนไทย ภายใต้การดูแลของสถานทูตได้
สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น ประกาศนี้มิได้ผ่านการปรึกษาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงอย่างกระทรวงการต่างประเทศและสถานทูตที่ต้องมารับภาระหน้างาน ติดต่อกับประชาชนในต่างแดน ต้องรับคำวิจารณ์จากประชาชนโดยที่ก็ยังไม่มั่นใจในขั้นตอนด้วยซ้ำ และไม่ใช่ทุกสถานทูตจะทำตามด้วย มีบางที่ปฏิเสธที่จะทำ เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับอำนาจของประกาศนั้น
ทั้งที่ผู้มีอำนาจในการห้ามคนเข้าประเทศเพื่อประโยชน์ต่อการควบคุมโรคระบาด คือ กระทรวงสาธารณสุข แต่สำนักงานการบินพลเรือนใช้อำนาจในการควบคุมการเดินทางมาทำเช่นนี้ ขณะนี้เหมือนเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เพราะสถานทูตก็ไม่มั่นใจว่าประชาชนถูกปฏิเสธให้ขึ้นเครื่องหรือไม่ หากไม่มีใบดังกล่าว เกินขอบเขตอำนาจในจุดๆ นั้น ตอนนี้จึงเป็นการบริการประชาชนล้วนๆ
คนชาติตัวเองควรถูกปฏิเสธการเข้าประเทศตัวเองได้จริงๆ หรือ ตรงนี้เป็นหลักการที่สำคัญมากที่ข้าราชการกระทรวงต่างประเทศก็ยังไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้น ตรงนี้รัฐบาลและคณะรัฐมนตรีควรจะมาช่วยควบคุมดูแลไหม ทำให้ทุกอย่างเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ประกาศนี้ผลักให้ประชาชนต้องเสี่ยงต่อโรคมากขึ้น เพราะต้องมารวมกันอย่างแออัดในจุดเดียว หมออาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ก็เสี่ยงไปด้วย และใบรับรองแพทย์ (fit to fly certificate) ไม่ได้เป็นเครื่องรับประกันว่าไม่มี COVID-19 เป็นการตรวจร่างกายคร่าวๆ ตรวจสอบความดัน ออกซิเจนในเลือด หากไปหา Private GP ก็เสี่ยงที่จะพบบริการที่แพงจนเกินเหตุ หรือหากอยู่นอกลอนดอนก็หาบริการได้ยากมากๆ
ณ สถานทูต ก็ยังมีคนบางส่วนพยายามอยากใช้อภิสิทธิ์หน้างาน ขอลัดคิวในการตรวจโดยการอ้างผู้ใหญ่ท่านนั้นท่านนี้ ในยามหน้าสิ่วหน้าขวาน ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่สถานทูตด้วยที่ยืนหยัดให้บริการประชาชนเต็มที่
ทั้งนี้ รัฐบาลส่วนกลางคุณจะไม่ใช้อำนาจบริหารที่มีอยู่ล้นมือทำอะไรเลยหรือ ขณะนี้รัฐราชการมากๆ แต่ละหน่วยงานต้องมาดำเนินงานกันเอง ไล่มาตั้งแต่กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพาณิชย์ หน่วยงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ตอนนี้ก็มากระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงคมนาคม ยังไม่รวมหน่วยงานระดับจังหวัดทั้งหลาย เหมือนปกครองกันเองแล้ว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
กพท.ออกประกาศ เดินทางเข้าไทยต้องมี "ใบรับรองแพทย์"
4 ประเทศกลุ่มเสี่ยงเข้าไทยต้องมี "ใบรับรองแพทย์"
แท็กที่เกี่ยวข้อง: