จับตาเวทีผู้นำอาเซียนหารือแก้ปัญหา COVID-19

การเมือง
14 เม.ย. 63
09:06
982
Logo Thai PBS
จับตาเวทีผู้นำอาเซียนหารือแก้ปัญหา COVID-19
นายกรัฐมนตรีเสนออาเซียนตั้งกองทุนอาเซียนเพื่อรับมือกับCOVID-19 พร้อมถอดบทเรียนรับความท้าทายใหม่ในอนาคต

วันนี้(14เม.ย.63) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่เวลา 7 นาฬิกา 20 นาที เพื่อประชุมผู้นำอาเซียน และผู้นำอาเซียนบวกสาม (จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้) สมัยพิเศษว่าด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ณ ทำเนียบรัฐบาล ผ่านระบบการประชุมทางไกล  

โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวต่อที่ประชุมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของCOVID-19 ทวีความรุนแรงขึ้นทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อทั้งชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน รวมถึงต่อเศรษฐกิจและสังคมด้วย โดยสถาบันวิจัยเอกชนชั้นนำอย่างแม็กคินซี่ได้คาดการณ์ว่า อัตราการเติบโตของจีดีพีโลกในปีนี้อาจจะติดลบถึงร้อยละ 1.5 และหากวิกฤตนี้ยืดเยื้อต่อไป ก็อาจจะติดลบไปถึงร้อยละ 4.7 

ประเทศไทยเห็นว่า ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาด ลดจำนวนผู้ติดเชื้อ ตลอดจนหาแนวทางร่วมกันในการบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างรอบด้าน โดยเมื่อคำนึงถึงสถานการณ์ภายในประเทศไทย จึงได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ มีผลตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม - 30 เมษายน 2563 และจัดตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ให้ความสำคัญกับการรับมือและแก้ไขปัญหา

ทั้งต้นทางที่เน้นควบคุมการเดินทางและคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศ กลางทาง โดยการรณรงค์มาตรการ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” และปลายทาง ให้ความสำคัญกับการรักษาผู้ป่วย และเยียวยาผลกระทบทางเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกัน รัฐบาลยังได้สนับสนุนการวิจัยเชิงรุกเพื่อพัฒนาและจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ การพัฒนาวัคซีน และการพัฒนาระบบสนับสนุนโดยนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้

นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ไม่มีประเทศใดสามารถต่อสู้กับภัยคุกคามนี้ได้โดยลำพัง พร้อมเสนอแนวทางที่สำคัญ 5 ประการ คืออาเซียนต้องร่วมมือกันในทุกภาคส่วน เพื่อแก้ไขปัญหาแบบองค์รวม พร้อมเสนอให้อาเซียน และประเทศบวกสามร่วมกันจัดตั้ง “กองทุนอาเซียนเพื่อรับมือกับCOVID-19” โดยจัดสรรเงิน ที่มีอยู่แล้วเท่าที่สามารถตกลงกันได้มาใช้ในการรับมือ ซึ่งรวมถึงการจัดซื้อชุดตรวจ อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล และอุปกรณ์การแพทย์ ตลอดจนเพื่อการศึกษาวิจัยคิดค้นยาและวัคซีน ให้อาเซียนสามารถพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาว

อาเซียนควรต้องร่วมกันในการอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ การผ่านพิธีการศุลกากร และการค้าชายแดนระหว่างกัน เพื่อให้ผู้บริโภคของเราได้เข้าถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ และสินค้าที่จำเป็นในช่วงวิกฤติอย่างเพียงพอและทันท่วงที

ควรสนับสนุนให้อาเซียนใช้เศรษฐกิจดิจิทัล เทคโนโลยีใหม่ๆ และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในภูมิภาคให้มากขึ้น โดยนายกรัฐมนตรีเสนอให้เร่งรัดการเชื่อมโยงการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะการใช้มาตรฐานรหัสคิวอาร์ที่เชื่อมโยงกันได้ ให้การค้าภายในภูมิภาคของเรามีความ คล่องตัวมากขึ้น

ขอเสนอให้อาเซียนถอดบทเรียนและประสบการณ์จากการต่อสู้กับโควิด-19 เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับมือกับ ความท้าทายต่างๆ ที่อาจคุกคามชีวิตของประชาชนในอนาคต โดยหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ และจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งจากภายในและการพึ่งพาตนเองของภูมิภาคในระยะยาวให้มากขึ้น

นอกจากนี้ควรเสริมสร้างบทบาทของเลขาธิการอาเซียนในการเป็นผู้ประสานงานการให้ความช่วยเหลือให้ครอบคลุมถึงสถานการณ์วิกฤตอื่นๆ ให้เป็นไปอย่างมีระบบ และทันเหตุการณ์

นายกรัฐมนตรียังได้ใช้โอกาสนี้กล่าวขอบคุณเลขาธิการอาเซียนที่ได้ช่วยจัดการหารือ ระหว่างไทยกับประเทศสมาชิกอาเซียนที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและ หมอกควัน ข้ามแดน

อาเซียนควรใช้โอกาสนี้มุ่งเสริมสร้างความเข้มแข็งของภูมิภาคนิยมและ พหุภาคีนิยม โดยเน้นความร่วมมือของทุกภาคส่วนทั้งภายในอาเซียน และกับภาคีภายนอกใน วันนี้เราต้องรอด วันหน้าเราต้องเข้มแข็ง

นายกรัฐมนตรียังได้ชื่นชมเวียดนาม ในฐานะประธานอาเซียนที่มีบทบาทในการเสริมสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของอาเซียนในการตอบสนองต่อCOVID-19 อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ รวมทั้งได้กล่าวต้อนรับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเข้าสู่ครอบครัวอาเซียนอีกด้วย

ทั้งนี้ผลจากการประชุมผู้นำอาเซียนจะมีการรับรองปฏิญญาร่วม 2 ฉบับ ซึ่งจะยืนยันถึง
ความมุ่งมั่นของกลุ่มประเทศอาเซียนและประเทศคู่เจรจา (จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้) ในการป้องกันและกำจัดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดที่คุกคามชีวิตของผู้คน และเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศสมาชิก

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังมีกำหนดการพบคณะผู้บริหารบริษัทเอกชนและคณะผู้บริหารสมาคมธนาคารไทย เพื่อบริจาคสิ่งของจำเป็นและอุปกรณ์การแพทย์ในการดูแลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 ด้วย

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง