วันนี้ (15 เม.ย.2563) นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เป็นเรื่องน่ายินดีกับตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่ของประเทศไทยที่มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากการค้นหากลุ่มเสี่ยงเข้าสู่กระ บวนการคัดกรอง นำเข้าระบบการรักษา ยิ่งค้นหาเร็ว ตรวจเร็ว รักษาเร็ว ยิ่งทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ซึ่งอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) กว่า 1,040,000 คน และอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานครอีก 15,000 คน เป็นกำลังสำคัญทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่น เป็นด่านหน้าออกเคาะประตูบ้านแล้วเกือบ 12 ล้านหลังคาเรือนให้ความรู้ ย้ำความสำคัญมาตรการการเว้นระยะห่าง
รวมทั้งค้นหากลุ่มเสี่ยงนำเข้าระบบการรักษาอีก 2,266 คน เป็นผลงานระดับโลกที่องค์การอนามัยโลกกล่าวชื่นชม นับเป็นพลังฮีโร่เงียบสู้โรคเป็นตัวอย่างให้กับหลายประเทศเป็นแนวทางในการควบคุมโรค
กำชับยังต้องเข้มข้นคัดกรอง
รมช.สาธารณสุข กล่าวอีกว่า ระยะต่อไป บทบาทของอสม.จะมุ่งเน้นไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มเสี่ยง โดยทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ซึ่งจะทำให้งานควบคุมและป้องกันโรคในระดับชุมชนมีประสิทธิภาพ เนื่องจาก อสม.เป็นผู้ที่เข้าถึงข้อมูล ข่าวสาร ความเคลื่อนไหว ในระดับครัวเรือนได้เป็นอย่างดี ทำให้การคัดกรองกลุ่มเสี่ยงเพื่อเข้าสู่ระบบรักษารวดเร็ว
ขอเป็นตัวแทนของกระทรวงสาธารณสุข ที่จะขอบคุณและให้กำลังใจพี่น้อง อสม.ทั่วประเทศที่ทำงานร่วมกับ รพ.สต.วันนี้ภารกิจยังไม่บรรลุเป้าหมายในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ขอกำชับให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มข้น
นอกจากนี้ สำหรับกลุ่มหมอนวดแผนไทย ควรได้รับการเยียวยาตามโครงการ “เราไม่ทิ้งกัน” เนื่องจากได้รับผลกระทบ ได้มอบให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ช่วยดูในข้อหลักการของการได้รับสิทธินี้เพื่อรักษาสิทธิ ขณะนี้มีผู้ขึ้นทะเบียนที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ 140,000 คน เพื่อให้ได้รับสิทธิการช่วยเหลือ โดยให้ประสานกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ช่วยให้กลุ่มหมอนวดแผนไทยได้รับการช่วยเหลืออย่างเร็วที่สุด