วันนี้ (24 เม.ย.2563) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีมอบกรมธรรม์ประกันภัย สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข และพิธีมอบกองทุนสนับสนุนและเยียวยาอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง กระทรวงสาธารณสุขและ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) โดยมีนายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ มาร่วมในพิธี ซึ่งเป็น 1 ใน 20 มหาเศรษฐี ที่นายกรัฐมนตรีส่งจดหมายขอคำแนะนำ ในการแก้ไขสถานการณ์ COVID-19
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในฐานะตัวแทนของรัฐบาล และประชาชนคนไทยทุกคน รู้สึกภูมิใจที่ประเทศไทยมีระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็ง และมีบุคลากรทางด้านสาธารณสุขที่มีความรู้ความสามารถ และมีความร่วมมือร่วมใจในการแก้ไขสถานการณ์ COVID-19 นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ในการสร้างขวัญและกำลังใจที่ดีให้กับบุคลากรทางการแพทย์ของไทย
ขอขอบคุณนักรบชุดขาวและบุคลากรทางการแพทย์ทุกคน ที่เป็นด่านหน้ารับมือสถานการณ์ COVID-19 ด้วยความเสียสละอุทิศตนเป็นกำลังหลัก ในการเฝ้าระวังคัดกรองผู้ป่วยโรค COVID-19 โดยรัฐบาลมีความเป็นห่วงความปลอดภัยของบุคลากรสาธารณสุข จึงขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในประเทศไทยมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่จะประมาทไม่ได้ ซึ่งการจะผ่อนคลายมาตรการต่างๆนั้น ต้องวิเคราะห์และประชุมร่วมกัน โดยจะรับฟังแนวทางปฏิบัติจากบุคลากรทางด้านสาธารณสุขเป็นหลัก เพื่อขอคำแนะนำไปสู่การแก้ปัญหาอื่นๆ ต่อไป
พล.อ.ประยุทธ์ยังมีความเป็นห่วงประชาชนในเรื่องการประกอบอาชีพและเรื่องรายได้ รวมไปถึงการประกอบธุรกิจและเรื่องทางสังคม โดยตัวชี้วัดที่สำคัญคือเรื่องของสุขภาพของประชาชน ทั้งนี้ยืนยันว่า รัฐบาลพยายามทำทุกอย่างในการกำหนดนโยบายและมาตรการต่างๆ แต่ก็ต้องรับฟังข้อมูลต่างๆ มาเปรียบเทียบและวิเคราะห์
ในช่วงนี้รัฐบาลทำงานอย่างเต็มที่ ในการนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์ เพื่อไปสู่นโยบายและการปฏิบัติ ซึ่งการที่ตัวเลขแนวโน้มการแพร่ระบาดลดลง ไม่ใช่สิ่งที่ชี้วัดว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดจะปลอดภัยทั้งหมด เพราะต้องพิจารณาปัจจัยแวดล้อมจากนอกประเทศ และการปฏิบัติของประชาชนภายใต้มาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมอย่างคร่งครัด
สิ่งที่รัฐบาลยึดเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาคือเน้นเรื่องสุขภาพเป็นหลักรองลงมาคือเรื่องของเศรษฐกิจ ซึ่งต้องหามาตรการมารองรับการแก้ปัญหาเหล่านี้ และจำเป็นต้องใช้งบประมาณ แต่จะไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต
นายกรัฐมนตรี ยังขอบคุณนายคีรี กาญจนพาสน์ โดยระบุว่า ประเด็นสำคัญที่ต้องการทราบข้อมูลคือเรื่ิองที่เกี่ยวข้องกับมาตรการดูแลช่วยเหลือลูกจ้างตลอดจนผู้เกี่ยวข้องในห่วงโซ่ธุรกิจ และข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจระยะต่อไป
ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องดำเนินการหลังจากนี้ เพราะกำลังถูกจับตามองจากหลายฝ่าย แต่ขอยืนยันว่า จะมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงานและแก้ปัญหาร่วมกับทุกภาคส่วน เพราะหากใครเจ็บ และเหนื่อย นายกรัฐมนตรีก็เจ็บและเหนื่อยด้วย ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลทุกรัฐบาล และไม่ว่าใครมาเป็นก็ต้องทำอย่างนี้ เพื่อให้เกิดความสามัคคีไม่แตกแยกกัน และเดินหน้าประเทศไทยด้วยกันสู้ปัญหาที่ยากลำบากนี้
แท็กที่เกี่ยวข้อง: