วันนี้ (1 พ.ค. 6253) นพ.ณัฐกร จำปาทอง ผอ.โรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์ และศูนย์ป้องกันการฆ่าตัวตายระดับชาติ กล่าวว่ากรมสุขภาพจิต ต้องการสื่อสารข้อมูล และความห่วงใยไปยังพี่น้องประชา ชนชาวไทยที่กำลังได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 และการเตรียมความพร้อมของหน่วยบริการสาธารณสุข เพื่อป้องกันปัญหาการฆ่าตัวตายที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น
นพ.ณัฐกร กล่าวว่า จำนวนตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายปี 2562 จากการรวบรวมโดยเก็บข้อมูลจากมรณบัตร และใบรายงานการตาย พบว่าอัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จ เท่ากับ 6.64 ต่อแสนประชากรต่อปี มากกว่าการประมาณการทั่วไปเล็กน้อย ซึ่งค่าเฉลี่ย 10 ปีก่อนหน้านี้จะอยู่ในช่วงระหว่าง 6– 6.5 ต่อแสนประชากรต่อปี
การสูงขึ้นของตัวเลขนี้ ของช่วงปีที่แล้วก่อนที่ภาวะ COVID-19 จะระบาด ขณะนี้ยังมีสาเหตุที่ไม่แน่ชัด แต่มีทิศทางเดียวกับตัวเลขการเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายที่สูงขึ้นในหลายๆประเทศทั่วโลก
โดยบางประเทศได้ประกาศมาในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เช่น ประเทศอังกฤษ อยู่ที่ 11.4 ต่อแสนประชากร สูงสุดในรอบ 19 ปีที่ผ่านมา และสหรัฐอเมริกาที่ตัวเลขสูงขึ้นทุกปี 13 ปีติดต่อกัน สาเหตุหนึ่งของตัวเลขในไทยที่สูงขึ้น อาจมาจากการปรับวิธีการคำนวณตัวเลขของกรมสุขภาพจิต ให้มีความถูกต้องแม่นยำมากขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา และตัวเลขข้อมูลเหล่านี้ คือความสูญเสียที่กรมสุขภาพจิตไม่อยากให้มีจำนวนสูงขึ้น
อ่านข่าวเพิ่ม ตร.เผยหญิงวัย 19 ปี ผูกคอเสียชีวิต คาดเครียดเรื่อง "ส่วนตัว -สุขภาพ -การเงิน "
หาคำตอบ 2 สัปดาห์ไทยฆ่าตายเพิ่มช่วง 3 เดือนแรก
ผอ.โรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นฯ กล่าวอีกว่า สำหรับจำนวนตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ กรมสุขภาพจิต มีความห่วงใย และกำลังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล และเปรียบเทียบฐานข้อมูลต่างๆ เพื่อให้เกิดความแม่นยำที่สุด โดยปกติแล้วตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายนี้ในประเทศต่างๆจะใช้เวลา 3-6 เดือนเพื่อตรวจสอบความถูกต้องแม่นยำ แต่กรมสุขภาพจิต เห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญที่เร่งด่วน และอยู่ในความสนใจของประชาชน จึงจะดำเนินการนำเสนออย่างรวดเร็วที่สุดภายใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้านี้
พร้อมทั้งผลักดันมาตรการให้รายงานข้อมูลการเฝ้าระวังการทำร้ายตนเอง จากหน่วยบริการทั่วประเทศ ให้เป็นปัจจุบัน และรายงานข้อมูลผ่านหน้าเว็บไซต์ของศูนย์ป้องกันการฆ่าตัวตายระดับชาติ กรมสุขภาพจิต
สำหรับข้อมูลการประมาณการตัวเลขผู้เสียชีวิต จากการฆ่าตัวตายในปีนี้ซึ่งมีการระบาดของโควิด เป็นอีกหนึ่งข้อมูลสำคัญที่ประชาชนให้ความสนใจ และมีแนวโน้มจะสูงขึ้นมากทั่วโลก ขณะนี้กรมสุขภาพจิต ระดมนักวิจัยและนักวิชาการด้านสุขภาพจิต เร่งสร้างการประมาณการด้วยวิธีการที่ให้ความแม่นยำ แต่การประมาณการตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน
เนื่องจากการฆ่าตัวตายเป็นปัญหาที่มีความสลับซับซ้อนอย่างมาก และมีปัจจัยจำนวนมหาศาลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตัวเลขประมาณการณ์นี้กรมสุขภาพจิตจะนำเสนออย่างรวดเร็วที่สุดภายใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้านี้เช่นเดียวกัน
ปรับแผนสำรวจกลุ่มเสี่ยง
สำหรับการดำเนินงานในขณะนี้ กรมสุขภาพจิตได้จัดทำแผนการฟื้นฟูจิตใจในสถานการณ์การระบาดโรคโควิด โดยจะเพิ่มระดับการเฝ้าระวังสถาน การณ์ปัญหาสุขภาพจิต โดยเฉพาะปัญหาการฆ่าตัวตายทั้งจากระบบรายงานและที่ปรากฏเป็นข่าว
การระบุกลุ่มเสี่ยงผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโรค COVID-19 ที่เสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย ควบคู่ไปกับการประสานให้แต่ละหน่วยบริการทราบถึงแนวทางการดูแลช่วยเหลือจิตใจ ทั้งการดูแลด้วยกระบวนการบำบัดแบบสั้นและการป้องกันภาวะสุขภาพจิตตามระดับความรุนแรง โดยเฉพาะผู้ที่เสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายในระดับรุนแรงจะต้องได้รับการติดตามเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องจนปลอดภัย ไม่กลับมาทำร้ายตนเองซ้ำอีก
นอกจากนี้จะเสริมสร้างวความเข้มแข็งทางใจ ทั้งการสร้างวัคซีนใจบุคคลและการสร้างวัคซีนใจชุมชน ทั้งในกลุ่มเขตเมือง และกลุ่มนอกเขตเมือง ผ่านการใช้กลไก บ้าน วัด โรงเรียน ในการขับเคลื่อนร่วมกัน และสนับสนุนมาตรการเข้มข้นเรื่องการจำกัดการดื่มสุราและการใช้สารเสพติดอื่นๆ
รวมทั้งเปิดช่องทางปรึกษาพิเศษสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 41 เลขหมายทั่วประเทศ เพื่อให้มีสภาพจิตใจที่พร้อมในการดูแลพี่น้องประชาชนต่อไป สำหรับประชาชนทั่วไปสามารถใช้บริการผ่านสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ซึ่งได้มีการเพิ่มคู่สายเป็นจำนวน 2 เท่าตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้ นอกจากนั้นยังสามารถใช้ช่องทางไลน์แอด “KhuiKun” และแอปพลิเคชั่น “SABAIJAI” เพื่อเข้าถึงความช่วยเหลือที่มากขึ้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศบค.ห่วงคนกรุงผ่อนคลาย COVID-19 เดินทางเฉียด 1 ล้านคน
แท็กที่เกี่ยวข้อง: