วันนี้ (13 พ.ค.2563) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาวิจารณ์ภาพประชาชนที่กำลังแย่งข้าวของจากโครงการตู้ปันสุข เป็นเรื่องที่รับไม่ได้ และแนะนำให้มีคนเฝ้าหรือติดกล้องบันทึกพฤติกรรมประชาชนว่า ความคิดดังกล่าวถือเป็นการดูถูกประชาชน และสะท้อนว่า นายกรัฐมนตรีไม่เคยมองย้อนกลับไปดูการบริหารจัดการของตนเองว่ามีปัญหาเลย
นายพิธากล่าวว่า ถึงแม้รัฐบาลจะไม่สามารถบริหารเงินเยียวยา 5,000 บาท อย่างมีประสิทธิภาพได้ แต่อย่างน้อยควรทำโครงการธนาคารอาหาร หรือ food bank เพื่อให้ประชาชนมีทางออก ไม่อดตาย
ประเทศไทยที่อุดมสมบูรณ์ขนาดนี้ ไม่สมควรต้องมีคนมากมากต้องหิวโหย ซึ่งโครงการธนาคารอาหารนี้ ได้เคยเสนอให้รัฐบาลทำตั้งแต่เดือนเมษายนแล้ว แต่ก็ไม่เคยเกิดขึ้น ทำให้ประชาชนต้องมองหาวิธีการช่วยเหลือดูแลกันเอง และหากต้องเป็นอย่างนี้ทุกครั้ง ก็ไม่รู้ว่าจะมีรัฐบาลแบบนี้ไว้ทำไม
นายพิธากล่าวว่า ปัญหาปากท้องของประชาชนเป็นเรื่องใหญ่ ที่ควรได้รับแก้ไขอย่างเร่งด่วน พรรคก้าวไกล นอกจากการลงพื้นที่อย่างแข็งขัน เพื่อหาทางช่วยบรรเทาปัญหาเฉพาะหน้าแล้ว เรายังพยายามอย่างเต็มที่ฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ ผ่านการผลักดันให้เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ ตั้งแต่เดือนเมษายน เพื่อให้สามารถผ่านงบประมาณออกมาเยียวยาประชาชนได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็ว แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะขาดแรงสนับสนุนจากฝ่ายรัฐบาล
การที่ได้เห็น พล.อ.ประยุทธ์ ออกมาแสดงความคิดเห็นแบบนี้ รวมถึงเสนอให้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อดูว่าใครหยิบอะไรไปมากน้อยขนาดไหนนั้น แสดงให้เห็นถึงแนวความคิด และภาพสะท้อนปัญหาในตัวของนายกรัฐมนตรีว่า มองประชาชนอย่างไร ดูถูกพวกเขาขนาดไหน โดยที่ไม่เคยมองว่าการบริหารจัดการของตนเองมีปัญหา
นายพิธายังเป็นหนึ่งในผู้ที่ทำโครงการตู้กับข้าว โดยได้ติดตั้งตู้แรกไว้ที่หน้าสำนักงานใหญ่ พรรคก้าวไกล ซอยเพชรเกษม 47/2 ตรงข้ามเดอะมอลล์บางแค พร้อมติดป้ายว่า “ใครมี เชิญให้, ใครไร้ เชิญหยิบ” เพื่อเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในระยะสั้น
สำหรับผู้ที่จำเป็นสามารถมาหยิบอาหาร หรือสิ่งของที่กำลังขาดแคลนไปใช้ได้ โดยเขาระบุว่า หลังจากลงพื้นที่มาโดยตลอดทำให้เห็นว่ายังมีคนอีกมากที่เวลานี้ไม่มีแม้แต่ข้าวจะกินแล้ว ขณะที่อีกหลายครอบครัวกำลังประสบปัญหาว่างงานทำให้ขาดรายได้และไม่มีเงินซื้อนมให้ลูกกิน
นอกจากการช่วยเหลือในลักษณะนี้ พรรคก้าวไกลยังได้ยื่นญัตติด่วนให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญติดตามการตรวจสอบการใช้งบประมาณ และมาตรการแก้ไขปัญหาภายใต้วิกฤตการระบาดของโรค COVID-19 เนื่องจากมีข้อสังเกตว่า ภายใต้มาตรการของรัฐ ที่กำลังดำเนินการด้วยงบประมาณมหาศาล ทำไมจึงยังมีผู้ได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก จึงต้องตรวจสอบว่า ถูกใช้ไปอย่างมีประสิทธิภาพจริงหรือไม่ ถือเป็นเรื่องสำคัญและเร่งด่วนที่ประชาชนควรได้รับรู้
แท็กที่เกี่ยวข้อง: