ชีวิตเหมือนในหนัง! 3 หนุ่มไนจีเรีย ติด Terminal สุวรรณภูมิ

เศรษฐกิจ
18 พ.ค. 63
21:51
4,836
Logo Thai PBS
ชีวิตเหมือนในหนัง! 3 หนุ่มไนจีเรีย ติด Terminal สุวรรณภูมิ
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แจงกรณี ชาวไนจีเรีย 3 คน ติดค้างในสนามบิน หลังมาต่อเครื่องจะไปพม่า-ลาว แต่ปลายทางปิดประเทศ เข้าไทยไม่ได้เพราะไม่มีวีซ่า ต้องค้างเติ่งในสนามบินมากว่า 2 เดือนแล้ว

ตามที่มีข่าวกรณีพบผู้โดยสารสัญชาติไนจีเรีย 3 คน ติดค้างอยู่ ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) นานกว่า 3 เดือน เนื่องจากเที่ยวบินปลายทางถูกยกเลิกจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา-2019 (COVID-19) นั้น

วันนี้ (18 พ.ค.2563) ฝ่ายกิจการพิเศษและมวลชนสัมพันธ์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้โดยสารสัญชาติไนจีเรีย จำนวน 3 คน ติดค้างอยู่ภายในทสภ. จริง โดยผู้โดยสารชาวไนจีเรียทั้ง 3 เดินทางมาที่ ทสภ. เพื่อต่อเครื่อง โดย 2 คนเดินทางมาถึง ทสภ. เมื่อวันที่ 21 มี.ค.2563 ด้วยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK372 และมีกำหนดต่อเครื่องของสายการบิน Lao Airlines ไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

และอีก 1 คน เดินทางมาถึง ทสภ. เมื่อวันที่ 24 มี.ค.2563 ด้วยสายการบิน Etihad Airways เที่ยวบินที่ EY402 และมีกำหนดต่อเครื่องสายการบิน Bangkok Airways ไปยังสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา

ซึ่งในวันที่ผู้โดยสารทั้ง 3 คน จะเดินทางต่อเครื่องนั้น ประเทศปลายทางได้ประกาศปิดประเทศ ส่งผลให้เที่ยวบินถูกยกเลิก ทำให้ทั้ง 3 คน ไม่สามารถเดินทางไปยังประเทศปลายทางได้ และเมื่อจะเดินทางกลับประเทศไนจีเรีย ก็ไม่สามารถทำได้เนื่องจากเที่ยวบินของสายการบิน Emirates และสายการบิน Etihad Airways ถูกยกเลิกเนื่องจากสถานการณ์ดังกล่าวเช่นกัน

และเนื่องจากผู้โดยสารทั้ง 3 คนไม่ได้ขอวีซ่าเข้าประเทศไทย ทางกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง (บก.ตม.2) จึงไม่สามารถอนุญาตให้ผู้โดยสารทั้ง 3 คน เข้าราชอาณาจักรไทยเพื่อพำนักรอได้ ทำให้ผู้โดยสารทั้ง 3 ต้องพักรอในพื้นที่สำหรับผู้โดยสารขาออก ของ ทสภ.

 

อย่างไรก็ตามเพื่อดำเนินการช่วยเหลือผู้โดยสารที่ตกค้างดังกล่าว ฝ่ายพิธีการ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ได้มีการประสานไปยังสถานทูตไนจีเรีย เพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือ และได้แจ้งให้สายการบินที่นำผู้โดยสารเข้ามารับผิดชอบดูแลอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ ในช่วงระยะเวลาที่ผู้โดยสารรอ ให้มีเที่ยวบินเดินทางกลับประเทศ

จากการสอบถามผู้โดยสารทั้ง 3 คน ยังยืนยันความต้องการเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางเดิม และไม่ขอเดินทางไปประเทศอื่น ซึ่งขณะนี้ประเทศปลายทางทั้ง 2 ประเทศยังคงประกาศปิดประเทศอยู่ สายการบิน Emirates จึงได้ประสานให้ความช่วยเหลือผู้โดยสารทั้ง 3 คน เพื่อเดินทางกลับประเทศไนจีเรีย โดยกำหนดเส้นทางต่อเครื่องที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

แต่เนื่องจากขณะนี้ทางประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ยังไม่รับผู้โดยสารต่อเครื่องทำให้ไม่สามารถที่นำพาบุคคลทั้งสามเดินทางได้ ทำให้อยู่ระหว่างรอจนกว่าทางประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เปิดประเทศ ในวันที่ 4 มิ.ย.2563

 

ฝ่ายกิจการพิเศษฯ ทสภ.เปิดเผยต่อว่า ตลอดระยะเวลาที่ผู้โดยสารทั้งสามพักรออยู่ภายในอาคารผู้โดยสาร เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ทสภ.ได้ให้ความช่วยเหลือ เช่น การมอบอาหาร น้ำดื่ม และดูแลความเป็นอยู่ในเบื้องต้น

นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่สายการบิน ได้ให้ความช่วยเหลืออยู่เป็นระยะเช่นกัน ทั้งนี้ ผู้โดยสารทั้งสาม ยังได้รับการดูแลด้านสุขภาพ จากด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ในการตรวจหาเชื้อไวรัส COVID-19 เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งผลตรวจของทั้ง 3 คนยืนยันว่า ไม่พบเชื้อ COVID-19

ทสภ.ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อกรณีที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด โดยตระหนักถึงการให้บริการด้วยใจ ตลอดจนการดูแลสุขภาพและอนามัยของผู้โดยสาร โดยได้บูรณาการทำงานประสานกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ตลอดจนเจ้าหน้าที่สายการบินที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันดำเนินการส่งผู้โดยสารไปยังประเทศที่ปลายทางหรือกลับประเทศไนจีเรียให้เร็วที่สุด เมื่อสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลายลง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง