วันนี้ (21 พ.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนมานานหลายเดือน ตั้งแต่เหตุการณ์จ่าคลั่งกราดยิงโคราชเมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ปรากฎว่าในช่วงเวลา 16.40 น.ของวันนี้ พล.อ.อภิรัชต์ได้ลงมาเดินออกกำลังกายรอบสนามฟุตบอลด้านหน้ากองบัญชาการกองทัพบก ถ.ราชดำเนิน
ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามถึงการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย กรณีครบรอบ 6 ปี การทำรัฐประหารในวันที่ 22 พ.ค.2557 ที่อาจจะมีกลุ่มต่าง ๆ ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อทำกิจกรรมแสดงสัญลักษณ์ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า จะไปห้ามเขาได้มั้ย เราก็อยู่ของเราตามปกติ ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก แต่ต้องอยู่ในขอบเขต ซึ่งจะไปห้ามใครเขาได้ แต่ดูแล้วไม่น่าจะมีอะไร
เมื่อถามว่า อาจจะมีการฉายหนังกลางแปลงถึงเหตุการณ์ปี 35 กับปี 53 พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ก็ต้องขออนุญาตตามขั้นตอนกฎหมาย เพราะการชุมนุมต่าง ๆ ต้องขออนุญาตเพื่อไม่ให้เกิดความเดือดร้อนกับคนอื่น แต่เราจะไปห้ามใครเขาได้ ส่วนที่อาจจะมีการยิงเลอร์เซอร์ใส่ตึกภายในกองทัพบกเหมือนกับที่กระทรวงกลาโหมด้วยนั้น บริเวณรอบกองทัพบกมีทหารทำหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว โดยมีการจัดทหารเวรยาม มีสุนัขทหาร และมีกล้องวงจรปิด ซึ่งเรื่องการยิงเลเซอร์มองว่าเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะเขาก็ไม่ได้ทำลายอะไร และเราก็ไม่รู้ว่ากฎหมายจะไปห้ามเขาอย่างไร
พล.อ.อภิรัชต์ ยังกล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เชิญไปให้ข้อมูลกรณีที่มี ส.อ.สังกัดกรมสรรพาวุธทหารบก ร้องเรียนว่าถูกผู้บังคับบัญชาข่มขู่ หลังจากออกมาเปิดโปงเรื่องการทุจริตของกองทัพบกว่า “เขาจะเชิญถึงผบ.ทบ.เลยเหรอ เรื่องนี้ต้องไปถามนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ที่ออกมาบอกว่านายสิบคนนี้เป็นอย่างไร”
เมื่อถามถึงความคืบหน้าการปรับโครงสร้างกองทัพบก โดยเฉพาะกิจการสวัสดิการกองทัพบกนั้น พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ทำอะไรไปมากแล้ว แต่ไม่จำเป็นต้องไปพูด ซึ่งสถานการณ์โควิด-19 ไม่มีผลต้องทำให้ชะลอการดำเนินการ เรื่องสวัสดิการเปลี่ยนไปมาก โดยได้ดำเนินการไปตามที่ประกาศไว้ เรามีการปรับทุกอย่างในเรื่องกิจการภายใน รวมถึงข้อตกลงที่ได้ทำไว้กับกรมธนารักษ์ ทุกอย่างเดินหน้า และในช่วงที่โควิด-19 ยิ่งดี เพราะจะทำให้ต้องปรับตัวหลายอย่าง เราทำได้เข้าเป้า แต่มีบางเรื่องไม่อยากแตะมาก