วันนี้ (21 พ.ค.2563) มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ (Watchdog Thailand) พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อมของหลักฐานในการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ทำให้ เตี้ย มช. สุนัขเพศผู้ อายุ 8 ปีตาย


ขณะที่เฟซบุ๊ก มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand - WDT เผยแพร่ข้อความ ระบุว่า "รับพี่เตี้ยออกไปแล้วเอาไปฆ่ามีความผิดฐานลักทรัพย์และทำให้เสียทรัพย์กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท"
มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ เปิดกฏหมายข้อหาหนักที่สุดโดย นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความโทษหนักยิ่งกว่าทารุณกรรมสัตว์ ซึ่งมีความผิดโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท คือ "รับหมาไปแล้วเอาไปฆ่า" มีความผิดฐานลักทรัพย์และทำให้เสียทรัพย์กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท (คำพิพากษาฎีกาที่ 10319 / 2558 )

คดีนี้ต้องแจ้งความว่า ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335 (1) (7) มาตรา 336 ทวิ
สัตว์เลี้ยงถึงแม้จะปล่อยเป็นอิสระก็ยังถือว่าอยู่ในความครอบครองมีความผิดฐานลักทรัพย์ (ฎีกาที่ 159 / 2512) อีกทั้งสัตว์เลี้ยงถึงแม้ว่าหายไปเจ้าของยังติดตามอยู่ถือว่าลักทรัพย์ (ฎีกาที่ 468 / 2510 ) ความผิดฐานลักทรัพย์ มีโทษจำคุก 10 ปี 6 เดือน

ล่าสุด เฟซบุ๊ก มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand - WDT ยังได้เผยแพร่ภาพสด โดยได้ร่วมแถลงความคืบหน้าในการเตรียมหลักฐานเพื่อสืบสวนหาผู้กระทำผิดต่อไป โดยเจ้าหน้าที่ยืนยันว่า หากพบหลักฐานใดที่เป็นความผิด จะพิจารณาเพื่อแจ้งข้อหาต่อไป ซึ่งเขตอำนาจการสอบสวนที่เกิดเหตุลักทรัพย์ ขึ้นกับ สภ.ภูพิงค์