วันนี้ (24 พ.ค.2563) พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจ ระบุว่า จะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 3 ให้กับกิจกรรม หรือ กิจการใดบ้าง ในวันที่ 27 พ.ค.นี้ ซึ่งหมายรวมถึงการปรับลดเวลาบังคับใช้เคอร์ฟิวด้วย
เลขาธิการ สมช. ชี้ว่าจะนำข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข ข้อมูลทางเศรษฐกิจ ข้อมูลผู้ประกอบการ และปัญหาปากท้องของประชาชน มาพิจารณาด้วยความรอบคอบ และต้องคำนึงถึงความปลอดภัยควบคู่ไปกับเศรษฐกิจ โดยไม่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของ COVID-19
พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวย้ำว่า การพิจารณาผ่อนปรนระยะที่ 3 และ 4 เป็นประเภทธุรกิจที่มีความเสี่ยงมาก จึงต้องพิจารณาปัจจัยประกอบหลายอย่าง ทั้งการเตรียมเปิดภาคเรียน ในเดือน มิ.ย. และ ก.ค. รวมถึงสภาพอากาศที่เข้าสู่ช่วงฤดูฝน และการบังคับใช้เคอร์ฟิว
นายกฯ กำชับผ่อนปรนเป็นขั้นตอน
ขณะที่ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาอย่างระมัดระวังในทุกมิติ ในมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 3 ที่จะให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ เพราะไม่ต้องการให้เชื้อ COVID-19 กลับมาแพร่ระบาดอีกครั้ง

ภาพ : รัฐบาลไทย
ภาพ : รัฐบาลไทย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุถึงความจำเป็นต่อการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ต่อไปอีก 1 เดือน เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID-19 ในต่างประเทศยังน่าเป็นห่วง แม้ว่าตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 ของไทยจะลดลงก็ตาม ส่วนอีกสาเหตุสำคัญคือมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 3-4 ที่จะนำไปสู่กิจกรรมเพื่อทำให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติมากขึ้น
ดังนั้น จะต้องมีมาตรการควบคุมแนวทางปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ นายกรัฐมนตรี จึงได้กำชับให้ผ่อนปรนเป็นขั้นตอน รวมถึงปลายทางซึ่งท้ายที่สุดคือการรองรับการเปิดประเทศในอนาคต พร้อมยืนยันการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ไม่ได้มุ่งหวังหรือเกี่ยวข้องกับการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น