อุทยานฯ ขีดเส้น 7 วันสั่งฟันปมวิ่งเต้นเข้างาน "ถ้ำหลวง"

สิ่งแวดล้อม
26 พ.ค. 63
14:14
965
Logo Thai PBS
อุทยานฯ ขีดเส้น 7 วันสั่งฟันปมวิ่งเต้นเข้างาน "ถ้ำหลวง"
กรมอุทยานฯ ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 7 วัน ปมเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย 2 คน เอี่ยวหลอกลวงชาวบ้านเรียกรับเงิน 70,000 บาทแลกวิ่งเต้นเข้าทำงานได้ เบื้องต้นย้ายออกนอกพื้นที่เปิดทางคณะทำงาน

กรณีผู้มีเสียหายเริ่มทยอยเข้าแจ้งความ หลังตกเป็นเหยื่อชาย-หญิง 2 คน ที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติว่าสามารถฝากเข้าทำงานในกรมอุทยานฯ แต่ต้องจ่ายเงินคนละ 70,000 บาทโดยมีหลักฐานการโอนเงิน

วันนี้ (26 พ.ค.2563) ไทยพีบีเอสออนไลน์ สัมภาษณ์ นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า ขณะนี้มอบหมายให้นายกมลไชย คชชา ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 เชียงราย ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า มีใครมาเกี่ยวข้องกับการเรียกรับเงินบ้างโดยให้เร่งสรุปรายงานโดยด่วน

เมื่อถามว่าผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความระบุว่ามีหลักฐานการโอนเงินค่าวิ่งเต้น มีชื่อของเจ้าหน้าที่ชายและหญิง บัญชี "นาย ส." "น.ส. ฤ"

นายธัญญา กล่าวว่า ตัวละครที่ระบุเบื้องต้น นาย ส.เป็นเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ และอีกคน เป็นเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าที่อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน

อ่านข่าวเพิ่ม อ้าง “คนกรมอุทยาน” วิ่งเต้นเข้างานจ่ายคนละ 7 หมื่นบาท

เบื้องต้นให้ดำเนินการตามระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด เพราะทำให้เกิดความเสื่อมเสียชื่อกรมอุทยานฯ และไม่ต้องการมีเรื่องลักษณะนี้ขึ้น ถ้ากระบวนการสอบทุกอย่างเป็นไปตามข้อร้องเรียนจะต้องมีมาตรการลงโทษเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง

กำชับให้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้สรุปรายละเอียดมาให้โดยเร็วว่ามีการโยงการเรียกรับเงินไปถึงใครบ้าง แต่ตอนนี้ยังมั่นใจว่าไม่มีคนส่วนกลางของกรมอุทยานฯเกี่ยวข้อง

ขีดเส้น 7 วันสอบข้อเท็จจริง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (25 พ.ค.) ผู้เสียหายเริ่มเข้าแจ้งความที่สภ.แม่สาย จ.เชียงราย พร้อมนำหลักฐานการโอนเงินที่ถูกอ้างว่าจะช่วยให้เข้าทำงานที่อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง โดยโอนเงินให้ผ่าน ธ.กรุงไทย สาขาบิ๊กเชียงราย โอนไป 2 บัญชี โดยบัญชีแรก โอนเข้าบัญชี "นาย ส." จำนวน 30,000 บาท และบัญชีสอง โอนเข้าบัญชี คือ "น.ส. ฤ" จำนวน 41,500 บาท รวมเป็นเงิน 70,000 บาท  

ด้านนายกมลไชย กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง รวบรวมข้อมูลเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่หลอกลวง พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ทราบผลภายใน 7 วัน 

พบว่าผู้ที่หลอกลวงวิ่งเต้นเข้าทำงาน เป็นคนของถ้ำหลวงจริง และได้มีคำสั่งย้ายไปที่สวนรุกขชาติโป่งสลี ชั่วคราวแล้ว เพื่อเปิดทางให้คณะทำงานตรวจสอบ

นายกมลไชยกล่าวว่า เรื่องนี้ถือเป็นขบวนการหลอกลวงอย่างชัดเจน เพราะที่ถ้ำหลวง และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 ยังไม่ได้มีการเพิ่มอัตรากำลังเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด ซึ่งชาวบ้านที่ถูกหลอกลวงก็ไม่ได้เป็นพนักงานทีโออาร์ ที่มีคุณสมบัติจะเข้างานได้ 

ทั้งนี้เท่าที่ทราบมีชาวบ้านที่หลงเชื่อและโอนเงินให้กับทั้ง 2 คนนี้ประมาณ 3-4 คนที่เข้าแจ้งความแล้ว และบางคนก็ไม่กล้าแจ้งความเพราะเกรงกลัวความผิด ทั้งนี้ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ไปคัดสำเนาการแจ้งความของผู้เสียหายมาใช้ประกอบการสอบสวนของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงด้วย

ขอให้มั่นใจว่าคณะทำงานจะไม่ข่วยเหลือใครอย่างเด็ดขาด เพราะเรื่องนี้ถือเป็นความเสื่อมเสียมาก ถ้ำหลวงเพิ่งจะเริ่มก่อตั้งหลังจากผ่านเหตุการณ์หมูป่าติดถ้ำ ขอให้รอผลอีก 7 วัน

เคยประกาศเตือนกลุ่มอ้างวิ่งเต้นเข้างาน

เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา เพจอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง - ขุนน้ำนางนอน ได้โพสต์ข้อความประกาศเตือน โดยระบุว่าได้รับแจ้งจากผู้หวังดีว่า มีผู้แอบอ้างตัวเป็นหัวหน้าอุทยานฯ โดยมีการกระทำและพฤติการณ์ ประกอบการกระทำอันเป็นการหลอกลวงประชาชนทั่วไปว่า ในการรับบุคคลทั่วไปเข้าทำงานที่อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง จะต้องแลกกับการจ่ายเงินให้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง เป็นค่าตอบแทนในการรับเข้าทำงาน และมีประ ชาชนจำนวนหลายคนหลงเชื่อ รวมทั้งได้จ่ายเงินให้บุคคล ผู้แอบอ้างดังกล่าวแล้ว

จึงขอประกาศให้ทราบว่า การรับบุคคลทั่วไปเข้าทำงานในอุทยานแห่ชาติถ้ำหลวง จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนกระบวนการ วิธีการ และระเบียบของทางราชการอย่างเคร่งครัด ซึ่งจากการที่มีผู้แอบอ้าง โดยแลกกับการจ่ายเงินให้แก่หัวหน้าอุทยานฯ ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

สำหรับผู้ที่แอบอ้างที่ได้แสดงตนเป็นหัวหน้า การกระทำหลอกลวงประ ชาชน ทำให้เกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียงของหัวหน้าอุทยานฯ และทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของทางราชการ รวมทั้งเป็นการกระทำที่มีควาผิดตามประมวลกฏหมายทางแพ่งและทางอาญา  

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ขั้นตอน “ถ้ำหลวง”ประกาศเขตอุทยาน 26,917 ไร่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง