วันนี้ (4 มิ.ย.2563) สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สรุปผลการจับกุมในห้วงการบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ระหว่างวันที่ 1-31 พ.ค. ตามนโยบายของรัฐบาล เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย
สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสั่งการให้ระดมกวาดล้างอาชญากรรมและกวดขันการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ฯ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการกระทำความผิดกรณีมีการกักตุนสินค้าอุปโภค บริโภค ที่ขายเกินราคา โดยแบ่งเป็นการกระทำความผิดกรณีฝ่าฝืนประกาศ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน จับผู้ฝ่าฝืนได้ รวม 52 คน
จับบุคคลตามหมายจับ ประจำเดือน 17 คน โดยแยกเป็นคดีสำคัญๆ รวม 6 คน คือ รวมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จำนวน 1 คน, พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ จำนวน 2 คน, พยายามฆ่าผู้อื่นจำนวน 1 คน, ปลอมเอสารและใช้เอกสารปลอมฯ (และ
เป็นบุคคลตามหมายจับ อีก 8 หมาย) จำนวน 1 คน และมียาแผนปัจจุบัน ที่เป็นยาอันตรายไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ประมาณ 7,000 ขวด จำนวน 1 คน
สำหรับผู้ต้องหาบางส่วนเป็นผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ และถูกกักตัวตามสถานที่รัฐจัดให้ และเมื่อตรวจสอบประวัติก็พบว่ามีหมายจับจึงถูกจับดำเนินคดี
นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจยึดยาเสพติดประเภทพืชกระท่อมจำนวน 102 กิโลกรัม และกัญชาแห้ง 13 กรัม เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา บริเวณด่านท่าฉัตรไชย จ.ภูเก็ต พร้อมกับผู้ต้องหา 2 คน จึงจับดำเนินคดีฐานความผิด ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (ใบพืชกระท่อม) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชาแห้ง) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย