กรณีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อสังคมออนไลน์ถึงการรับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าใน จ.เชียงใหม่ ของ ฌอน บูรณะหิรัญ ที่แม้เจ้าตัวจะชี้แจงผ่านเพจเฟซบุ๊กของตัวเองแล้ว แต่หลายฝ่ายยังมีการตั้งคำถามโดยเฉพาะการนำเงินที่ได้รับบริจาคกว่า 800,000 บาทไปใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่โดยเฉพาะนำเงินกว่า 250,000 บาท ทำสื่อเพื่อประชาสัมพันธ์ในเพจของตัวเอง
นายชัชวาลย์ ทองดีเลิศ ตัวแทนสภาลมหายใจเชียงใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรที่ทำงานด้านไฟป่าและฝุ่นควันร่วมกับภาครัฐมาโดยตลอด ระบุว่า การรับบริจาคเงินหรือสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องช่วยให้ตรงวัตถุประสงค์ที่ผู้บริจาคเงินต้องการเงินที่ได้มาต้องชี้แจงที่มาที่ไปรวมถึงสามารถตรวจสอบได้ที่สำคัญไม่ควรรับบริจาคในบัญชีส่วนตัวเพราะอาจเกิดความไม่โปร่งใสได้
ก่อนหน้านี้นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ออกมายืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการที่ฌอนเปิดรับบริจาคเงิน รวมถึงการนำสิ่งของมามอบให้ทางจังหวัดซึ่งอาจนำไปมอบในนามส่วนตัว เพราะขณะนี้สถานการณ์ไฟป่าของจังหวัดเชียงใหม่ได้คลี่คลายไปแล้ว
ด้านสมาชิกสภาทนายความ จ.เชียงใหม่ ระบุว่าการนำเงินที่ได้รับบริจาคไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ กลุ่มผู้ที่ร่วมบริจาคสามารถนำหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดีได้เพราะเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบกับตำรวจในพื้นที่ทราบว่า ยังไม่มีประชาชนเข้าแจ้งความร้องทุกข์ว่าถูกหลอกลวงหรือถูกฉ้อโกงซึ่งตามหลักกฎหมายหากมีผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์แจ้งความพนักงานสอบสวนก็จะเรียกทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูลตามขั้นตอน
ส่วนการกระทำที่จะเข้าข่ายหลอกลวง หรือ ฉ้อโกง จะต้องเป็นการกระทำโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้ชัดเจน หากมีประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากการเปิดรับบริจาคดังกล่าวสามารถเข้าร้องทุกข์แจ้งความได้