วันนี้ (25 ส.ค.2563) นักจุลชีววิทยาของมหาวิทยาลัยฮ่องกง ระบุว่าพบชายวัย 33 ปีติดเชื้อ COVID-19 ซ้ำสอง ซึ่งห่างจากการติดเชื้อรอบแรกกว่า 4 เดือน โดยชายคนนี้ได้รับการตรวจและพบการติดเชื้อรอบสองที่สนามบินฮ่องกงเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังเดินทางมาจากประเทศสเปนโดยแวะต่อเครื่องที่อังกฤษ จากการตรวจสอบพบว่าเชื้อ COVID-19 ที่ติดซ้ำสอง เป็นสายพันธุ์ที่ระบาดในสวิตเซอร์แลนด์และอังกฤษ ซึ่งแตกต่างจากการติดเชื้อครั้งแรกที่เป็นคนละสายพันธุ์
ผลการศึกษาพิสูจน์ได้ว่า ภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติที่เกิดจากการติดเชื้อครั้งแรก คงอยู่ได้ไม่นาน และการติดเชื้อซ้ำสองสามารถเกิดขึ้นได้ ดังนั้นผู้ที่หายป่วยแล้ว ไม่ควรประมาท ยังคงต้องป้องกันการตัวเองจากการติดเชื้ออยู่เสมอ ด้วยการเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัยและล้างมืออย่างสม่ำเสมอ ขณะที่เว็บไซต์ Worldometers รายงานสถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในฮ่องกงมีผู้ป่วยสะสมแล้ว 4,692 คน เสียชีวิตสะสม 77 คน
ไทยป่วยเพิ่มใน SQ 5 คน ทั่วโลกเกือบแตะ 24 ล้านคน
ขณะที่ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยรายใหม่ 5 คน พบใน State Quarantine ส่งผลให้มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,402 คน หายป่วยแล้ว 3,229 คน รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 115 คน และเสียชีวิตสะสม 58 คน
สำหรับผู้ป่วยใหม่เป็นผู้ป่วยหญิงเดินทางมาจากโอมาน 1 คน อายุ 26 ปี เข้าพักใน State Quarantine จ.ชลบุรี ตรวจพบเชื้อครั้งที่ 2 ในวันที่ 23 ส.ค. โดยไม่มีอาการป่วย ผู้ป่วยใหญ่อีก 1 คน เป็นพนักงานสปา อายุ 47 ปี เข้าพักใน State Quarantine ใน กทม. ตรวจพบเชื้อครั้งที่ 2 โดยไม่มีอาการ
ขณะที่นักศึกษาชายไทยอายุ 27 ปี และหญิงไทย 20 ปี เดินทางกลับมาจากอินโดนีเซีย เข้าพักใน State Quarantine ที่ จ.ชลบุรี ตรวจพบเชื้อครั้งแรก โดยทั้งสองไม่มีอาการป่วย และผู้ป่วยชายเดินทางกลับมาจากสหรัฐฯ อาชีพรับจ้าง พบประวัติเคยป่วย COVID-19 ตรวจพบเชื้อโดยไม่มีอาการ
ทั้งนี้ สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วย COVID-19 สะสม 23,809,241 คน เพิ่มขึ้นวันเดียว 225,625 คน หายป่วยแล้ว 16,359,043 คน และเสียชีวิตสะสม 817,005 คน โดยสหรัฐฯ ยังป่วยสะสมมากสุด 5,915,630 คน เพิ่มขึ้นวันเดียว 41,484 คน รองลงมาคือบราซิล อินเดีย รัสเซีย และแอฟริกาใต้ โดยไทยอยู่อันดับที่ 119 ของโลก