ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ดีอีเอสพร้อมแจงหากเฟซบุ๊กฟ้องปิดกลุ่ม "รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส"

การเมือง
26 ส.ค. 63
12:34
666
Logo Thai PBS
ดีอีเอสพร้อมแจงหากเฟซบุ๊กฟ้องปิดกลุ่ม "รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส"
รมว.กระทรวงดิจิทัลฯ ระบุยังไม่ได้รับหนังสืออย่างเป็นทางการจากเฟซบุ๊กกรณีจะดำเนินคดีกับไทย หลังศาลมีคำสั่งปิดกั้นกลุ่ม "รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส" ยืนยันชี้แจงตามข้อกฎหมาย

วันนี้ (26 ส.ค.2563) นายพุทธพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสข่าวถึงบริษัท เฟซบุ๊กเตรียมยื่นฟ้องรัฐบาลไทยกรณีที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน กรณีมีคำสั่งให้ปิดกลุ่มเฟซบุ๊ก "รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส” โดยนายพุทธพงษ์ ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับทราบหนังสืออย่างเป็นทางการจากเฟซบุ๊กถึงการจะดำเนินคดี ได้รับทราบจากสื่อสังคมออนไลน์เท่านั้น แต่หากมีการดำเนินคดีจริง ทางกระทรวงก็พร้อมที่จะมีคณะกรรมการชี้แจงตามกระบวนการยุติธรรม และต่อสู้คดีได้เพราะที่ผ่านมาได้ดำเนินคดีตามกฎหมายของไทย

 

เพจเฟซบุ๊กดังกล่าวทางกระทรวงฯ ได้ยื่นเรื่องพร้อมคำสั่งศาลที่เห็นว่าเพจหรือเว็บไซต์มีเนื้อหาที่มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมีเฟซบุ๊กจำนวน 661 รายการ ยูทูป 289 รายการ ทวิตเตอร์ 69 รายการ และเว็บไซต์อื่น ๆ 5 รายการ รวม 1,024 รายการ ซึ่งมีกำหนด 15 วัน ที่จะดำเนินการปิดเว็บไซต์ซึ่งขณะนี้ก็ได้ปิดกั้นเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมทั้งหมดแล้ว

ส่วนกรณีที่เฟซบุ๊กจะดำเนินคดีเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนเกี่ยวกับการปิดกั้นไม่ให้เข้าไปอยู่ภายในกลุ่มดังกล่าวนั้น นายพุทธิพงษ์ เห็นว่า เฟซบุ๊กมี หรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ จะมีคณะกรรมการในการตรวจสอบคำร้องและคำสั่งศาลของแต่ละประเทศที่ส่งไปให้ดำเนินการ และหากเห็นว่าผิดจริงก็จะต้องปิด ซึ่งเพจนี้เฟซบุ๊กได้ปิดการใช้งานไปแล้วแสดงว่ามีการละเมิดกฎหมายจริง

ขอบคุณเฟซบุ๊กที่เข้าใจในกฎหมายของไทย

 

นายพุทธพงษ์ ยังระบุว่า หากพบว่ามีการจัดตั้งเฟซบุ๊ก “รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส” ขึ้นมาใหม่อีกครั้งก็จะต้องดำเนินการส่งเรื่องให้เพลตฟอร์มปิดอีกครั้ง ซึ่งหากภายใน 15 วันไม่ดำเนินการ ทางการไทยก็จะต้องดำเนินคดีกับเพลตฟอร์มนั้น ๆ ได้ ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงฯ ยังไม่เคยดำเนินคดีกับเพลตฟอร์มใด เพราะที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากเจ้าของแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทั้งหมด

สำหรับบุคคลที่อยู่ภายในกลุ่มแล้วมีการโพสต์ข้อความที่ผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนสมาชิกที่อยู่ในกลุ่มจะไม่ถูกดำเนินคดีหากไม่ได้กระทำความผิด แต่ผู้ดูแลเพจก็ถือว่ามีความผิดเนื่องจากเป็นผู้ที่ก่อตั้ง

การมีคำสั่งปิดเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่มีการกระทำผิดกฎหมาย ไม่ใช่เฉพาะการกระทำผิดเกี่ยวกับการหมิ่นเบื้องสูง แต่ยังมีผู้ที่กระทำผิดในลักษณะอื่น ๆ อีกด้วย เช่น การฉ้อโกงขายสินค้า เป็นต้น

 

ขณะเดียวกันทางกระทรวงฯ ได้รับการแจ้งเบาะแสจากประชาชนจากเพจ “อาสา จับตา ออนไลน์” ระหว่างวันที่ 31 ก.ค.-24 ส.ค. มีผู้แจ้งเบาะแสเข้ามาแล้วกว่า 5,943 รายการ ตรวจสอบแล้วเข้าข่ายผิดกฎหมาย 2,260 รายการ และศาลมีคำสั่งแล้ว 1,781 รายการ อยู่ระหว่างดำเนินการยื่นต่อศาล 479 รายการ และกำลังดำเนินการ 451 รายการ

นายพุทธิพงษ์ ยืนยันว่า หลังจากทางกระทรวงฯ ได้รับแจ้งเบาะแสมาแล้วก็จะเร่งดำเนินการสืบหา เก็บหลักฐานในสื่อสังคมออนไลน์ โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องปิดกั้นให้ได้ภายใน 48 ชั่วโมง เพื่อส่งหลักฐานให้ศาลมีคำสั่งปิดเว็บไซต์ ลบเนื้อหาในทันที

การดำเนินการตามขั้นตอนตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 และมีคำสั่งศาลแนบไปด้วยอย่างถูกต้องทุกกรณี ไม่ได้เป็นการข่มขู่หรือกลั่นแกล้งกับบุคคลใด

 

รัฐบาลพร้อมสู้หากเฟซบุ๊กฟ้อง

ก่อนหน้านี้ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ระบุว่า ได้ให้ฝ่ายกฎหมายของกระทรวงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง พิจารณาในข้อกฎหมายและกำลังดูที่มาที่ไปของเรื่องนี้ แต่ถ้าผู้โพสต์ทำผิดกฎหมายของไทย รัฐบาลก็อยู่ในฐานะที่ใช้กฎหมายของไทย เข้ามาควบคุม ส่วนเรื่องสิทธิเสรีภาพตามกฎหมายระหว่างประเทศ ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ขณะที่เมื่อวานนี้ (25 ส.ค.63) เฟซบุ๊กประเทศไทย ออกแถลงการณ์ว่าหลังจากเฟซบุ๊กได้พิจารณาอย่างระมัดระวังและถี่ถ้วนแล้ว จึงตัดสินใจที่ จะจำกัดการเข้าถึงเนื้อหาที่ทางรัฐบาลไทยระบุว่าเป็นเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย

แต่ข้อเรียกร้องจากรัฐบาลเช่นครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องที่รุนแรงและขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนสากล และยังส่งผลกระทบต่อเสรีภาพในการแสดงออก เฟซบุ๊คกำลังเตรียมความพร้อมเพื่อโต้แย้งในข้อกฎหมายต่อข้อเรียกร้องครั้งนี้

พร้อมระบุว่าการแทรกแซงที่เกินขอบเขตของรัฐบาลเช่นในกรณีนี้ถือเป็นการบั่นทอนความสามารถของ ในการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ประเด็นด้านเสรีภาพในการแสดงออกและกฎระเบียบที่ว่าด้วยการแสดงออก ถือเป็นความท้าทายที่ซับซ้อนมากที่สุดและมีความสำคัญ เป็นหัวข้อที่ต้องอาศัยการหาความสมดุลที่ละเอียดอ่อนเป็นอย่างยิ่ง

ด้านนายปริญญา หอมเอนก ผู้อำนวยการศูนย์การรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ระบุถึงแถลงการณ์ของเฟซบุ๊กว่า เป็นความพยายามในการชี้แจงให้สมาชิกรับทราบถึงท่าทีของเฟซบุ๊ก ซึ่งที่ผ่านมาเฟซบุ๊กก็ดำเนินการในลักษณะนี้ หากมีการระงับการเข้าถึง เฟซบุ๊กตามคำร้องขอของประเทศต่าง ๆ ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรก เคยมีการดำเนินการมาแล้ว

กรณีเฟซบุ๊กจะฟ้องรัฐบาล ส่วนตัวมองว่าไม่เป็นความจริง และหากดูจากแถลงการณ์ภาษาอังกฤษ ก็ไม่มีข้อความใดที่ระบุว่า จะฟ้องร้อง เพียงแต่เป็นการโต้แย้งทางกฎหมาย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Facebook แจงปมรัฐบาลไทยร้องขอให้จำกัดเนื้อหา

นายกฯ โต้ไม่เคยใช้อำนาจเผด็จการ พร้อมรับ Facebook ฟ้อง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง