วันนี้(3 ก.ย.2563) ทีมข่าวร้องทุกข์ลงป้ายนี้ ลงพื้นที่ไปพบกับชาวบ้านจากหลายตำบลในพื้นที่ ใน อ.คลองเขื่อน และ อ.เมืองฉะเชิงเทรา ที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง รวมตัวกว่า 100 คน เรียกร้องให้ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนบางปะกง สำนักงานชลประทานที่ 9 เปิดประตูระบายน้ำ เพื่อแก้ไขผักตบชวาที่อัดแน่นอยู่บริเวณประตูเขื่อนให้สามารถไหลออกสู่ทะเลได้ เพราะถ้าหากปล่อยไว้ให้อยู่ในลักษณะนี้ ทำให้ในช่วงเวลาน้ำทะเลหนุน ผักตบชวาที่อยู่บริเวณนี้จะไหลย้อนกลับกระจายเต็มพื้นที่แม่น้ำบางประกง ไปสะสมกับที่มีอยู่แล้ว ทำให้ชาวบ้านที่ทำประมง และใช้เรือสัญจรได้รับความลำบาก จึงรวมตัวมาเรียกร้องกันในครั้งนี้

ด้านนายธรรมรงศักดิ์ นคราวงศ์ ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบางประกง สำนักงานชลประทานที่ 9 ได้รับฟังปัญหาของชาวบ้าน พร้อมเผยว่าตามที่ชาวบ้านได้เรียกร้องให้มีการเปิดประตูระบายน้ำของเขื่อนบางปะกง เกินอำนาจและขอบเขตในการปฎิหน้าที่ของตัวเอง ซึ่งต้องทำหนังสือถึงผู้บังคับบัญชาของกรมชลประทานให้ทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นก่อน ซึ่งนโยบายของผู้บริหาร ได้เสนอให้ใช้เขื่อนบางปะกง เป็นจุดสกัดกั้นผักตบชวาเป็นจุดสุดท้าย และให้ทางสำนักงานชลประทานที่ 9 ทำการจัดเก็บ

ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้นำรถแบ็คโฮยืนบก 1 คัน และแบ็คโฮลงโป๊ะจำนวน 3 ลำ เร่งจัดเก็บผักตบชวา แต่เนื่องด้วยจากอิทธิพลของน้ำขึ้นลงในช่วงฤดูฝน ทำให้การจัดเก็บผักตบเป็นไปด้วยความลำบาก น้ำไหลเชี่ยว ทำให้อุปกรณ์ที่ใช้ในการล้อมผักตบชวา ที่เรียกว่า "ล๊อคบูม" ไม่สามารถรับน้ำหนักของผักตบชวาที่มีจำนวนมากได้และขาด ทำให้ผักตบไหลย้อนกลับไปในพื้นที่ของชาวบ้าน ซึ่งขณะนี้ทางสำนักชลประทานที่ 9 ได้รับการสนับสนุนจาก องค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา นำรถแบ็คโฮมาเพิ่มในบริเวณเขื่อนบางปะกง และ จุดอื่น ๆ เพิ่มเติม ซึ่งภายใน 7 วันนี้จะสามารถทำให้ปัญหาผักตบชวาในพื้นที่ลดลงได้

ขณะเดียวกัน ดร.กิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย นายปรัตรวีร์ วิจบ นายอำเภอคลองเขื่อน เดินทางมามาร่วมรับฟังปัญหาและพูดคุยเพื่อหาแนวทางแก้ไขให้กับชาวบ้าน พร้อมจะให้ความร่วมมือ และช่วยการสนับทางกรมชลประทานให้เกิดแนวทางการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ จนทุกฝ่ายสามารถพูดคุยตกลงกันได้ชาวบ้านต่างก็พึงพอใจ กับความพยายามของหน่วยงานรัฐที่ร่วมกันหาแนวทางแก้ไขให้ชาวบ้านในครั้งนี้
