ผลตรวจ 14 คนใกล้ชิด "ดีเจ" ร้านกาแฟถนนข้าวสารไร้ COVID-19

สังคม
6 ก.ย. 63
10:30
9,964
Logo Thai PBS
ผลตรวจ 14 คนใกล้ชิด "ดีเจ" ร้านกาแฟถนนข้าวสารไร้ COVID-19
ผลตรวจ 14 ผู้สัมผัสใกล้ชิด "ดีเจ" ในร้านเฟิร์ส คาเฟ่ ถนนข้าวสาร ไม่พบติดเชื้อ COVID-19 แม้ว่าจะเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค 1 คนแต่ผลตรวจเป็นลบ ส่วนกรณีข่าวลือผู้ต้องขังระนอง เสียชีวิตในเรือนจำ ผู้ว่าฯ ระนอง แถลงยืนยันแล้วเช่นกันว่าไม่ได้ป่วย COVID-19

วันนี้ (6 ก.ย.2563) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีผู้ขังชาย อาชีพดีเจ ติดเชื้อ COVID-19 โดยกรมควบคุมโรค สามารถติดตามผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อ เพิ่มขึ้นจากเดิม 589 คน รวมเป็น 708 คน ในจำนวนนี้แบ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง 140 คน และกลุ่มเสี่ยงต่ำ 568 คน

ทั้งนี้ผลตรวจของพนักงานในร้านสามวันสองคืนที่ดีเจไปทำงานทั้ง 24 คน ไม่พบการติดเชื้อ ส่วนพนักงานที่เหลืออีก 1 คน ยังอยู่ระหว่างการรอผลตรวจ โดยผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้ง 25 คน อยู่ในสถานที่กักตัวท้องถิ่น โรงพยาบาลบางกรวย 2 ศูนย์บริการการแพทย์นนทบุรี ถนนราชพฤกษ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี

นอกจากนี้สำหรับพบผู้มีความเสี่ยงในร้านเฟิร์ส คาเฟ่ ถนนข้าวสาร มีผู้สัมผัส 14 คนเป็น ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้งหมด ผลตรวจทั้งหมดไม่พบเชื้อ COVID-19 หลังจากเมื่อวานนี้ (5 ก.ย.) มี 1 คนเข้ามีอาการเข้าเกณฑ์ PUI (มีไข้) จึงได้นำส่งรักษาที่โรงพยาบาลกลาง เพื่อตรวจและดูแลรักษา แต่ล่าสุดผลตรวจจากห้องปฏิบัติการออกแล้วพบว่า ไม่ติดเชื้อ COVID-19 แต่อย่างใด

อ่านข่าวเพิ่ม คนแรก! สธ.ยืนยันผู้ต้องขังใหม่ติด COVID-19 ในไทยรอบ 100 วัน

ผู้ต้องขังเสียชีวิตในเรือนจำ จ.ระนองไม่ติด

ส่วนกรณีมีนักโทษเด็ดขาด นอนหมดสติเสียชีวิตบนเรือนนอนคืนวานนี้ (5 ก.ย.) และเกิดกระแสว่าอาจติดเชื้อ COVID-19 นายจตุพร ปิยัมปุตระ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง พร้อมเจ้าหน้าที่เรือนจำ แถลงข่าวยืนยันนักโทษที่เสียชีวิตไม่ได้ติดเชื้อ โดยมีการตรวจหาเชื้อแล้วที่โรงพยาบาลระนองแล้ว

นอกจากนี้ยังเกิดข่าวลือเป็นวงกว้างในพื้นที่จ.แม่ฮ่องสอน ว่ามีผู้ลี้ภัยในศูนย์อพยพบ้านในสอย ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ป่วยตายด้วย COVID-19 โดยนายพงศ์พีระ ชูชื่น นายอำเภอเมืองแม่ฮ่อง สอน กล่าวว่า ข่าวลือดังกล่าวไม่เป็นความจริง นอกจากข่าวลือว่ามีผู้ป่วยด้วยโรคแล้ว ยังมีข่าวลือเกี่ยวกับการป่วยตายของหมูในพื้นที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยการสู้รบบ้านใหม่ในสอย ตรวจสอบก็ไม่พบเช่นกัน

ช่วงนี้ มักมีผู้ไม่หวังดี สร้างข่าวลือในทางที่ผิดออกมาบ่อยครั้ง ส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้าง ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวของอำเภอ ตรวจสอบต้นตอข่าวลือ หากพบจะทำการดำเนินคดีตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ อย่างเด็ดขาด

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทั่วโลกป่วย 27 ล้านคน "หมอธีระ" ชี้ระบาดเพิ่ม 9 เท่า ไทยยังเสี่ยง

คุมเข้มเข้า "กรุงเนปิดอว์" บังคับตรวจ COVID-19

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง