วันนี้ (17 ก.ย.2563) เว็บไซต์ worldometers รายงานว่ายอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ทั่วโลกมากกว่า 30,034,508 คน เสียชีวิต 945,092 คน และหายป่วย 21,800,991 คน
ทั้งนี้พบว่าอินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเป็นอันดับ 2 ของโลกมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 5,115,893 คน เสียชีวิต 83,230 คน โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอยู่ในหลัก 90,000 คน
ส่วนอันดับ 1 ของโลก ยังเป็นประเทศสหรัฐอเมริกา มีผู้ป่วยสะสม 6,828,301 คน เสียชีวิต 201,348 คน และรักษาหายแล้ว 4,119,158 คน
ขณะที่สถานการณ์ในอาเซียน อันดับโลกของไทยดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยยอดผู้ติดเชื้อสะสมขยับเป็นอันดับที่ 128 และยอดผู้เสียชีวิตสะสมขยับเป็นอันดับที่ 129 ของโลก ประเทศฟิลิปปินส์ และอินโด นีเซีย สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง โดยรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่า 3,500 ราย
ส่วนเมียนมา ขยับอันดับผู้ติดเชื้อสะสมแซงหน้าไทยอยู่ในอันดับที่ 124 รายงานตัวเลขที่ 3,894 ราย และมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในหลัก 300 ราย และรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวม 46 คน
อ่านข่าวเพิ่ม ไทยติดเชื้อ COVID-19 เพิ่ม 10 คนมาจาก 5 ประเทศ

อัตราป่วย 1 ล้านคนภายใน 3.5 วัน
ด้านรศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยข้อมูลสถานการณ์ COVID-19 ผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า สถานการณ์ทั่วโลก COVID-19 วันนี้ช่วงสายๆ จะทะลุ 30 ล้านครับเมื่อวานติดเพิ่มอีกถึง 300,670 คน ตายเพิ่ม 6,077 คน รวมแล้วตอนนี้ 29,973,988 คน ตายไปรวม 943,765 คน
ความเร็วเฉลี่ยตอนนี้ 1 ล้านคนทุก 3.5 วัน
อเมริกา ติดเพิ่ม 40,546 คน รวม 6,821,674 คน อีก 5 วันยอดติดเชื้อจะแตะ 7 ล้านคน ขณะที่วันนี้ยอดตายทะลุ 201,094 คน อินเดีย ติดเพิ่ม 97,859 คน รวม 5,115,893 คน บราซิล ติดเพิ่ม 36,820 คน รวม 4,419,083 คน รัสเซีย ติดเพิ่ม 5,670 คน รวม 1,079,519 คน
อันดับ 5-10 ยังคงเดิมติดกันหลายพันถึงเกินหมื่นต่อวัน ที่หนักมากคือสเปน และอาร์เจนตินา ติดกันราว 11,000 คนต่อวัน

ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร อิตาลี เยอรมัน เนเธอร์แลนด์ รวมถึงอิหร่าน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และบังคลาเทศ ติดกันหลักพันถึงเฉียดหมื่น หลายประเทศในยุโรป รวมถึงแคนาดา ปากีสถาน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเมียนมาร์ ติดกันหลักร้อยถึงหลายร้อย
ในขณะที่จีน สิงคโปร์ ออสเตรเลีย และมาเลเซียติดกันหลักสิบ ส่วนฮ่องกงและนิวซีแลนด์ติดกันเพิ่มต่ำกว่าสิบ
เมียนมาข้างบ้านเรา ติดเพิ่มถึง 319 คนแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สถานการณ์ระบาดยังรุนแรงมากทั่วโลก การเปิดประเทศเพื่อรับให้กลุ่มต่างๆ เดินทางเข้ามานั้น หากมีสติและใช้ปัญญาคิด จะรู้ว่าเป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่จะนำเชื้อเข้ามาในประเทศอย่างไม่ต้องสงสัย แม้จะมีระบบคัดกรองและกักตัวก็มีโอกาสหลุดได้

ห่วงระบาดจากหลายกลุ่ม-สัญญาณไม่ดี
ภาวะที่ไทยเรามีการติดเชื้อในประเทศ ทั้งที่ตรวจเองในประเทศ และที่ไปตรวจพบที่ประเทศอื่นเช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เมียนมา โดยมีหลายต่อหลายรายที่มาจากหลายหลายอาชีพ หลากหลายแหล่งที่พำนัก หลากหลายชาติเป็นสัญญาณไม่ดี และมักจะนำไปสู่การระบาดซ้ำแบบกระทันหัน จู่โจมไม่ทันตั้งตัว และกระจายเร็ว
การระบาดซ้ำหลายประเทศโชว์ให้เราเห็นชัดเจนว่า หนักกว่าเดิม 2-3 เท่า และใช้เวลานานในการควบคุม นานกว่าเดิมราว 2 เท่า
การอวดอ้างสรรพคุณว่าจะเอาอยู่นั้น ไม่เกิดประโยชน์ใดๆ และอาจทำให้เกิดความประมาท แทนที่จะเอาเวลามาอวดอ้างสรรพคุณไปวันวัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรไปเตรียมระบบการตรวจ ให้เพียงพอ เข้าถึงได้ และทำการตรวจให้มากกว่าที่เป็นมาจะดีกว่า สถิติของไทยตรวจเพียง 6.1 คนต่อประชากร 1,000 คน ในขณะที่ประเทศอื่นๆ นั้นมากกว่านี้หลายเท่าถึงหลายสิบเท่าตัว
การไม่มีรายงานเคส ไม่ได้แปลว่าไม่มีเคส และการไม่ตรวจอย่างเพียงพอ ก็ย่อมไม่เจอเคส
สถานการณ์ในปัจจุบัน ประเมินดูแล้ว คงต้องบอกว่า สิ่งที่เราจะเชื่อมัน ศรัทธาได้ พึ่งได้นั้นคือตัวเราเองแต่ละคนเท่านั้นครับ ขอให้ทุกคนรักตัวเอง รักครอบครัว ป้องกันตัวเสมอ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
สธ.ชี้แจง "เมียวดี" เคอร์ฟิว ปมเด็กเมียนมาจากไทยติด COVID-19