ยังไม่เคาะ! รองโฆษกรัฐบาล แจงปมลดกักตัวนักท่องเที่ยวเหลือ 7 วัน

สังคม
26 ก.ย. 63
18:21
1,561
Logo Thai PBS
ยังไม่เคาะ! รองโฆษกรัฐบาล แจงปมลดกักตัวนักท่องเที่ยวเหลือ 7 วัน
รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณี รมว.ท่องเที่ยวฯ เสนอลดเวลากักตัวนักท่องเที่ยวเข้าไทยเหลือ 7 วัน ว่ายังไม่เริ่มดำเนินการ ระบุ ยังกักตัว 14 วัน แล้วค่อยพิจารณาผ่อนปรน ย้ำเปิดรับนักท่องเที่ยวแบบพิเศษมาตรการรัดกุม ไม่เสี่ยง COVID-19 ระบาดระลอก 2

วันนี้ (26 ก.ย.2563) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยงและกีฬา มีแนวคิดจะให้นักท่องเที่ยวกักตัว 7 วัน โดยระบุว่า ขณะนี้ยังไม่เริ่ม โดยจะเริ่มจากการกักตัว 14 วันก่อน แล้วค่อยพิจารณาคลายมาตรการอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ทั้งนี้ คาดว่าแนวทางเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ Special Tourist VISA (STV) จะเข้ามีการหารือในศูนย์บริหารสถานการณ์ COVID-19 อีกครั้งในวันที่ 28 ก.ย.นี้ โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธาน

ภาพ : รัฐบาลไทย

ภาพ : รัฐบาลไทย

ภาพ : รัฐบาลไทย


สำหรับมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศเริ่มคลี่คลาย ในการเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ Special Tourist VISA (STV) ขณะนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว คาดว่าเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ก็จะสามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้

โดยรูปแบบการเดินทาง นักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ Special Tourist VISA (STV) จะเดินทางด้วยเครื่องบินเช่าเหมาลำขนาดเล็ก หรือ เครื่องบินส่วนตัว ทุกเที่ยวบินจะต้องผ่านความเห็นชอบจาก ศปก.กต. หรือ ศปก.ศบค. ทั้งนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประมาณการรายได้จากจำนวนนักท่องเที่ยว คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเดือนละ 1,200 คน รายได้อยู่ที่ 1,030,732,800 บาท และคาดว่า 1 ปี จะมีนักท่องเที่ยว 14,400 คน โดยประมาณการรายได้ 12,368,793,600 บาท

ขอให้ประชาชนมั่นใจในระบบป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ของไทย ว่าไม่เสี่ยงต่อการระบาดระลอก 2 ไทยไม่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศมาเป็นระยะเวลาต่อเนื่องกันมากกว่า 100 วัน 


นอกจากนี้ ชาวต่างประเทศที่อยู่ในประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ และยังไม่ได้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 มีความประสงค์ที่จะเดินทางมาท่องเที่ยว และใช้ชีวิตพร้อมครอบครัว แบบพำนักระยะยาว (Long Stay) ภายในประเทศไทย เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ระบาดในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ดังนั้น ไทยจึงจะใช้โอกาสนี้ฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังจากได้ผลกระทบตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา

"หมอธีระ" เตือนหายนะกักตัวนักท่องเที่ยว 7 วัน 

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat  สถานการณ์ทั่วโลกวันนี้ มากกว่า 350,000 คน ต่อวัน เพิ่ม 1 ล้านคนทุก 3 วันกว่าๆ เมื่อวานติดเพิ่มไปอีก 353,944 คน รวมแล้วตอนนี้ 32,710,981 คน เสียชีวิตเพิ่มถึง 5,869 คน ยอดเสียชีวิตรวม 992,009 คน


พรุ่งนี้ทั่วโลกจะทะลุ 33 ล้านคน ในขณะที่อีก 2 วันจำนวนการตายจะแตะ 1 ล้านคน องค์การอนามัยโลกออกมาเตือนแล้วว่า หากทุกประเทศยังไม่สามารถดำเนินมาตรการเข้มข้น ให้ประชาชนร่วมกันป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด จำนวนการตายจะไปถึง 2 ล้านคนได้ เพราะหลายประเทศทั่วโลกระบาดกันรุนแรง

  • อเมริกา ติดเพิ่ม 54,319 คน รวม 7,229,011 คน ตายเพิ่มเกือบพัน
  • อินเดีย ติดเพิ่ม 85,473 คน รวม 5,901,576 คน ตายเพิ่มเกินพัน
  • บราซิล ติดเพิ่ม 31,911 คน รวม 4,689,613 คน
  • รัสเซีย ติดเพิ่ม 7,212 คน รวม 1,136,048 คน
เป็นขาขึ้นจริง น่าจะใช้เวลาอีกไม่กี่วันก็จะเห็นอัตราการเพิ่มต่อวันทวีคูณขึ้น

หลายประเทศในยุโรป ทั้งฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร อิตาลี เยอรมัน เนเธอร์แลนด์ แคนาดา รวมถึงอิหร่าน บังกลาเทศ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ติดกันเพิ่มหลักพันถึงหมื่นกว่าอย่างต่อเนื่อง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย และเมียนมาร์ ติดเพิ่มกันหลักร้อยถึงหลายร้อย ส่วนสิงคโปร์ และออสเตรเลียติดเพิ่มกันหลักสิบ ในขณะที่จีน ฮ่องกง และนิวซีแลนด์ก็ยังมีติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ


สถานการณ์ในเมียนมาร์นั้นยังสาหัส ติดเพิ่มไปอีกถึง 768 คน ตายเพิ่มอีก 24 คน ตอนนี้ยอดรวมเกินเก้าพันคนไปแล้ว ตายไปมากถึง 174 คน อัตราตายตอนนี้ขึ้นมาเป็น 1.9% หากคาดการณ์ไม่ผิด ช่วงปลายปีนี้จะมีโอกาสระบาดกันหนัก เพราะเป็นช่วงเทศกาลที่คนเดินทางระหว่างประเทศมากขึ้น 

ส่วนญี่ปุ่นกำลังจะเปิดรับให้กลุ่มเป้าหมายต่างๆ เข้าไปในประเทศ โดยให้กักตัวที่บ้าน ไม่ให้ใช้ขนส่งสาธารณะ และหากออกนอกบ้านต้องใส่หน้ากาก ความท้าทายคือ จะทำอย่างไรให้คนเคารพกฎเกณฑ์ หากไม่สามารถกำกับให้ปฏิบัติได้ อาจเกิดปัญหาตามมาระยะยาว คงต้องเอาใจช่วย

ไทยเรานั้น หากตัดสินใจทำตามข้อเสนอให้ลดเวลากักตัวลงเหลือ 7 วัน หายนะจะมาหาในไม่ช้า

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง