"ทรัมป์-ไบเดน" ดีเบตดุเดือด ปมภาษี-COVID-19

ต่างประเทศ
30 ก.ย. 63
11:15
1,351
Logo Thai PBS
"ทรัมป์-ไบเดน" ดีเบตดุเดือด ปมภาษี-COVID-19
การประชันวิสัยทัศน์ครั้งแรกระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์-โจ ไบเดน เป็นไปอย่างดุเดือด โดยเฉพาะประเด็นการแพร่ระบาด COVID-19 และความโปร่งใสของการเลือกตั้ง ซึ่งทรัมป์ระบุว่าการลงคะแนนทางไปรษณีย์จะนำไปสู่การโกงเลือกตั้งอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

วันนี้ (30 ก.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงสุดท้ายของการประชันวิสัยทัศน์ นายคริส วอลเลซ ผู้ดำเนินรายการจากสำนักข่าวฟอกซ์ นิวส์ ตั้งคำถามว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ และนายโจ ไบเดน มีความคิดเห็นอย่างไรต่อความโปร่งใสของการเลือกตั้ง ซึ่งปีนี้ส่วนใหญ่จะใช้การลงคะแนนทางไปรษณีย์ เนื่องจากการแพร่ระบาด COVID-19

ทรัมป์ ระบุว่า การลงคะแนนด้วยวิธีนี้ไม่มีประสิทธิภาพ และจะนำไปสู่การทุจริตเลือกตั้งอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน พร้อมกล่าวว่าเรื่องนี้จบไม่สวยแน่นอน โดยเรียกร้องให้ผู้สมัครออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งและจับตาดูอย่างใกล้ชิด ส่วนไบเดนเรียกร้องให้นับบัตรลงคะแนนทุกใบ และขอให้เคารพผลการเลือกตั้ง

โจมตีไร้แผนรับมือ COVID-19

สำหรับประเด็นเรื่องการแพร่ระบาด COVID-19 ไบเดนโจมตีทรัมป์ว่าไม่มีแผนรับมือ ทั้งที่ทราบถึงความรุนแรงของโรคตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่ทรัมป์โต้แย้งว่าการดำเนินนโยบายที่ผ่านมา เช่น ระงับเที่ยวบินจากจีนได้ช่วยชีวิตชาวอเมริกันหลายล้านคน และเชื่อมั่นว่าหากไบเดนมาทำหน้าที่ผู้นำประเทศในช่วงเวลานี้ ก็ไม่สามารถทำอย่างเขาได้แน่นอน

ส่วนประเด็นที่ทรัมป์ เสนอชื่อผู้พิพากษาศาลสูงสุดคนใหม่ แทนที่จะรอให้ผู้ชนะการเลือกตั้งเป็นคนเสนอชื่อนั้น ทรัมป์ระบุว่าสหรัฐฯ จำเป็นต้องมีผู้พิพากษาศาลสูงสุดคนใหม่ เพราะเชื่อว่าการเลือกตั้งในครั้งนี้จะเกิดคดีความจำนวนมากและต้องให้ศาลสูงสุดพิจารณา จึงไม่อาจรอเวลาได้

นอกจากนี้ ในประเด็นการประท้วงต่อต้านการเหยียดสีผิว ผู้ดำเนินรายการขอให้ทรัมป์กล่าวประณามกลุ่มนิยมผิวขาวที่มักก่อเหตุรุนแรง ซึ่งทรัมป์มีท่าทีบ่ายเบี่ยงและไม่ยอมกล่าวประณามตรง ๆ

นัดแรกดีเบต โพลชี้ "ไบเดน" นำทรัมป์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดเวลา 90 นาทีของการประชันวิสัยทัศน์ ทรัมป์จะพูดแทรกและขัดจังหวะไบเดนตลอดเวลา โดยกล่าวโจมตีไบเดนหลายครั้งว่า ทำงานเป็นนักการเมืองมานานถึง 47 ปี แต่ไม่ค่อยมีผลงาน จากผลการสำรวจของซีบีเอส นิวส์ หลังการประชันวิสัยทัศน์สิ้นสุดลง พบว่าผู้ชมลงคะแนนให้ไบเดนเป็นฝ่ายชนะในรอบนี้ โดยได้คะแนนร้อยละ 48 ส่วนทรัมป์มีคะแนนร้อยละ 41 และอีกร้อยละ 10 ระบุว่าเสมอกัน ส่วนความรู้สึกของผู้ชมร้อยละ 69 รู้สึกรำคาญ เนื่องจากมีการขัดจังหวะตลอดเวลา ร้อยละ 19 รู้สึกไม่ค่อยชอบ และร้อยละ 31 รู้สึกพอใจ

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

"ทรัมป์" โต้ข่าวไม่จ่ายภาษีว่าเป็นข่าวปลอม 

จับตา "ทรัมป์-ไบเดน" เตรียมประชันวิสัยทัศน์นัดแรก 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง