วันนี้ (6 ต.ค.2563) ตัวเลขของผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 ในประเทศมาเลเซียที่ติดเชื้อเมื่อวานนี้วันเดียวมากถึง 432 คน ทำให้ในช่วง 5 วัน ที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อถึง 1,589 คน บริเวณด่านพรมแดนทุกด่านที่ติดกับมาเลเซียต้องเพิ่มการคัดกรองมากขึ้น โดยเฉพาะคนไทยที่กลับประเทศและคนขับรถบรรทุกที่ผ่านเข้าออกทุกวัน

ไทยพีบีเอสได้สอบถามนายบุญสิทธิ์ พรหมจันทร์ ซึ่งเป็นคนมาเลเซียเชื้อสายไทยในรัฐเคดาห์ ซึ่งเป็นรัฐที่เคยพบผู้ติดเชื้อสูงสุดในมาเลเซีย นายบุญสิทธิ บอกว่า ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ในเรือนจำทำให้เกิดการระบาดอย่างรวดเร็ว โดยขณะนี้ทางการมาเลเซียได้กำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อสกัดไวรัส ทั้งการจำกัดจำนวนคนที่เข้าร่วมในบางกิจกรรมงดการละหมาดในมัสยิดที่มีการรวมตัวจำนวนมาก งดกิจกรรมทางศาสนาพุทธและอื่นๆ


ส่วนโรงเรียนยังเปิดเรียนตามปกติ แต่มีมาตรการคัดกรองเข้มข้น สำหรับคนไทยที่ทำงานในร้านอาหารส่วนใหญ่ได้เดินทางกลับประเทศเกือบหมดแล้ว เพราะร้านปิด แต่บางคนที่ยังอยู่เพราะไม่รู้ว่าจะกลับไปทำมาหากินอะไรที่ไทย ส่วนคนมาเลเซียเชื้อสายไทยก็ได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลครอบครัวละกว่า 30,000 บาท
คนไทยบางคนยังไม่ยอมกลับ เพราะหลายร้อยคนกังวลว่า กลับไปแล้วจะทำอะไร เพราะบ้านเราไม่มีงาน

ขณะที่นายมัทธรีดี รามันห์สิริวงศ์ คนไทยในมาเลเซีย ชาวจังหวัดยะลาซึ่งมาทำงานที่กรุงกัวลาลัมเปอ เล่าว่า ก่อนหน้านี้บริษัทได้ให้ทำงานที่บ้านนาน 5-6 เดือน แต่ขณะนี้กลับมาทำงานในตามปกติ แต่บริษัทก็มีมาตรการดูแลพนักงานทั้งการรักษาระยะห่างและทำการความสะอาดสถานที่ทำงานทุกๆ 3 ชั่วโมง ส่วนการประชุมจะใช้วิดีคอลเป็นหลัก

สอดคล้องกับความคิดเห็นของชาวมาเลเซีย ที่ระบุว่า หลังการประกาศล็อกดาวน์ทางรัฐบาลมาเลเซียให้การช่วยเหลือเป็นอย่างดีและมีมาตรการที่เข้มข้นเช่นการสั่งปรับเกือบ 10,000 บาท หากไม่สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออกจากบ้าน บางจุดท้องถิ่นจะมีการจัดตารางเวลาในการออกไปซื้ออาหาร บางจุดภาครัฐจะนำอาหารไปให้โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการระบาดหนัก ส่วนการปิดสถานที่ราชการก็จะมีการติดต่อกลับในภายหลัง

ทั้งนี้ การระบาดของไวรัส COVID-19 ในประเทศมาเลเซียพบผู้ติดเชื้อสะสมถึงเมื่อวานนี้ 12,813 คน เสียชีวิตแล้ว 137 คน และรักษาหาย 10,340 คน ขณะที่มาตรการล็อกดาวน์ยังถูกนำมาใช้ในหลายพื้นที่

แท็กที่เกี่ยวข้อง: