วันนี้ (12 ต.ค.2563) นายสุภรณ์ อัตราวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมกรณีคณะราษฎร 2563 ประกาศเตรียมเดินทางมาปักหลักชุมนุมรอบทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 14 ต.ค.นี้ ว่า ทำเนียบรัฐบาลยังคงเปิดทำการปกติ ในวันที่ 14 ต.ค.
โดยในช่วงเช้า เวลา 09.00 น.นายประทีป กีรติเรขา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง จะประชุมวอร์รูม ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุม ซักซ้อม ทำความเข้าใจ การปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุในการรักษาความปลอดภัยทำเนียบฯอีกครั้ง
ทั้งนี้ยังคงใช้แผนเดิมที่เคยเตรียมการเมื่อครั้งการชุมนุมเมื่อวันที่ 19 ก.ย. และยึดใช้การบังคับใช้ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะเป็นหลัก ที่กำหนดห้ามเข้าใกล้ทำเนียบรัฐบาล ในรัศมีไม่เกิน 50 เมตร รอบสถานที่ หากฝ่าฝืนถือว่าผิด พ.ร.บ.ดังกล่าว ทันที
ได้รับแจ้งว่า จะมีกลุ่มประชาชนจากหลายพื้นที่ ที่จงรักภักดีต่อสถาบัน มารอรับเสด็จฯ บริเวณ ถ.ราชดำเนิน และจะมาช่วยปกป้องทำเนียบรัฐบาล เพื่อไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมมาปักหลักชุมนุมด้วย ซึ่งได้มีการประสานกับทางกทม.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ขณะที่ พ.ต.อ.วัชรวีร์ ธรรมเสมา ผกก.4 บก.ส.3 ผู้กำกับการ 4 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล ระบุถึงการเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยภายในทำเนียบรัฐบาล ว่า ทางตำรวจสันติบาลได้เฝ้าระวังอาคารสถานที่และ วางกำลังในทุกตึกภายในทำเนียบรัฐบาล
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตึกไทยคู่ฟ้าและตึกบัญชาการ 1 รวมถึงแนวรั้วด้านในของทำเนียบรัฐบาล ซึ่งขณะนี้ตำรวจที่ประจำทำเนียบรัฐบาลมี 138 นาย หากม็อบจะปักหลักค้างคืน ก็จะต้องประสานกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อขอกำลังมาเสริมในการดูแลพื้นที่

สำหรับการเตรียมรับมือการชุมนุมในครั้งนี้ พ.ต.อ.วัชรวีร์กล่าวว่า จะใช้ยุทโธปกรณ์เหมือนการชุมนุมเมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ซึ่งดูแลพื้นที่โดยรอบนอก จะพิจารณาเรื่องการนำแบริเออร์และลวดหนามมาวางสกัดกั้นกลุ่มผู้ชุมนุม
นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดพื้นที่ให้ผู้ชุมนุม อยู่บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐยาวไปถึงแยกนางเลิ้ง โดยจะไม่ให้ข้ามสะพานชมัยมรุเชฐมาอยู่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล ขณะที่การดูแลการจราจร จะอยู่ในการพิจารณาของกองบัญชาการตำรวจนครบาล