"ปริญญา" ชี้ทางออกรัฐบาล "อย่าปราบ" แต่ให้เจรจา

การเมือง
17 ต.ค. 63
20:21
4,255
Logo Thai PBS
"ปริญญา" ชี้ทางออกรัฐบาล "อย่าปราบ" แต่ให้เจรจา
"ปริญญา" ชี้ทางออกรัฐบาล "อย่าปราบ" แต่ให้เจรจา ถ้าไม่อยากให้ลุกลาม ต้องยอมรับการชุมนุมสงบ ชี้การสลายการชุมนุมแยกปทุมวัน เป็นการทำเกินกว่าเหตุ เพราะทุกคนมาชุมนุมโดยสงบและอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ที่เป็นกฎหมายใหญ่กว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

วันนี้ (17 ต.ค.2563) ไทยพีบีเอส สัมภาษณ์ผศ.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทางออกชุมนุมการเมืองว่า ในฐานะคนที่ผ่านการชุมนุมในปี 2535 มองว่ามาตรการสลายการชุมนุมที่แยกปทุมวัน ไม่จำเป็นต้องทำขนาดนั้นเพราะการชุมนุมไม่ได้มีอาวุธ และถ้ากีดขวางจราจร ก็ว่าไปตามข้อมูลแต่การเอาน้ำที่ผสมสี และทุกคนมีการแสบตา เป็นเรื่องไม่จำเป็น และจากนี้ไปจะมีแฟลชม็อบเกิดขึ้น
ผศ.ปริญญา กล่าวอีกว่า ผลที่เกิดขึ้นถ้ามองการแบบจะช่วยรัฐบาล เชื่อว่าวิธีการที่ทำจะมีการต่อต้านมากขึ้น เพราะคนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับความรุนแรง และคนที่ไม่เคยเห็นด้วยกับนักเรียน นักศึกษาก็เห็นว่าเหตุการณ์เมื่อวานนี้ทำเกินกว่าเหตุ

ผศ.ปริญญา กล่าวอีกว่า เดิมข้อเรียกร้องมี 3 หยุดคุกคามประชาชน ยุบสภา และแก้รัฐรรมนูญ แต่ตอนนี้มาถึงข้อ 4 ใฝห้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีลาออก การที่รัฐทำแบบนี้ จะยิ่งมีผลกระทบกลับมาที่รัฐบาล เพราะคนไม่พอใจมีมากขึ้น

การมีคนชุมนุมมากขึ้นไม่ใช่ใคร แต่เป็นเพราะรัฐบาลเอง

ผศ.ปริญญา กล่าวอีกว่า วันนี้ประเมินสถานการณ์ไม่แย่เท่าเมื่อวาน และรัฐบาลควรใช้ท่าทีนี้ หมายความว่ารัฐบาลต้องไม่ใช้ความรุนแรง การไปบอกว่าชุมนุม เพราะมีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรง มันเป็นประกาศของรัฐบาล คือทำแบบนี้ต่อต้านรัฐบาลผิด แต่ความผิดเพราะไม่ใช่ตัวบทกฎหมาย แต่เพราะรัฐบาลบอกว่าห้ามไม่ให่ชุมนุมจะมาบอกว่าถูกจับแล้วต้องสลายการชุมนุม ฟังไม่ขึ้น

 

คำถามหากหากรัฐบาลถามว่ากฎหมายไม่ใช่กฎหมาย ซึ่ง 2 วันไม่ยอมปฏิบัติตาม จึงต้องบังคับใช้กฎหมาย ผศ.ปริญญา ระบุว่า รัฐธรรมนูญเป็นกฏฎหมายสูงสุด และรับรองเสรีภาพในการชุมนุมอย่างสงบ เจ้าของประเทศมีสิทธิในการแสดงออก ถ้าอยู่ในขอบเขตและปราศจากอาวุธ รัฐบาลจะไปสลายการชุมนุมไม่ได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเพราะรัฐบาลอ้างการประกาศ พ.ร.ก.ร้ายแรงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเรื่องนี้กฎหมายรัฐธรรมนูญสูงสุด

ผมก็สงสัยว่าถ้าจะอ้างการกีดขวางการจราจร ผมถามว่าใครมาปิดถนนก่อน และเรื่องนี้ความรุนแรงไม่เกิด จะโทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้ และเท่าที่ได้ยินข่าวว่าจะไม่ปะทะกับเจ้าหน้าที่ และเป็นสัญญาณที่ดีที่ฝ่ายผู้ชุมนุมก็พยายามเลี่ยง เพราะมาตรการที่ไม่จำเป็นต้องใช้

อ่านข่าวเพิ่ม กระชับพื้นที่ “แยกปทุมวัน” ตำรวจ-ผู้ชุมนุมชุลมุน

แนะทางออกแก้ต้นเหตุ-เจรจา ห้ามปราบ 

หากถามว่ามาทุกวันจะทำให้เกิดมาตรการที่เข้มข้นอีกหรือไม่ ผศ.ปริญญา กล่าวว่า การชุมนุมหมือนแค่อาการของโรค และปราบไม่ได้ เพราะยิ่งปราบยิ่งถูกต่อต้าน และคิดว่าเราไม่ควรต้องสูญเสียเลือดเนื้อชีวิตดีนอีก

สิทธิการชุมนุมโดยสงบเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ตามรัฐธรรมนูญ ความหมายคือใหญ่กว่าประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรง ถ้าเขาอยู่ในขอบเขต ทางออกคือการเจรจรา และไม่ควรใช้ความรุนแรง และต้องจากเบา ไม่ควรปราบจะได้ไม่ลุกลาม

การแก้ที่ต้นเหตุคือเรื่องการสืบทอดอำนาจและรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ให้ศสช.มาเป็นรัฐบาลต่อ และสว.ที่คสช.ถูกเลือกเข้ามา

 

ส่วนสถานการณ์เฉพาะหน้าที่มีการชุมนุมทุกวันมีความเสี่ยงหรือไม่ ผศ.ปริญญา กล่าวว่า ความเสี่ยงคือการจับแกนนำ และตอนนี้ที่มีบางคนศาลให้ประกันตัว ซึ่งบทเรียนในอดีตช่วงเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ หลังพล.ต.จำลอง ศรีเมืองถูกจับ คิดว่าจะยุติการชุมนุมได้เพราะไม่มีแกนนำ แต่ปรากฎว่าไม่ใช่แบบนั้น ซึ่งตอนนั้นคนมาชุมนุมเป็นคนวัยทำงานที่เลิกงานมาชุมนุม และกลางวันคนจะน้อย ตอนสลายวันที่ 18 พ.ค.2535 และปราบและสุดท้ายพล.อ.สุจินดา คราประยูร ก็ต้องลาออก  


เสนอถ้าไม่อยากให้ลุกลาม ต้องยอมรับการชุมนุมสงบ อย่าปราบแต่ให้เจรจา และเงื่อนไขสำคัญ ถ้าเขาไม่รุนแรงอย่าไปทำ เช่นการฉีดน้ำสีฟ้าผสมสารเคมีใส่ผู้ชุมนุม ถ้ารัฐบาลยังไม่ยอมแก้ ก็ขอให้เจรจากัน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผู้ชุมนุม "อนุสาวรีย์ฯ" เดินไปรวมตัวที่ "ห้าแยกลาดพร้าว

ความเคลื่อนไหวก่อนชุมนุม 17 ตุลา

คณะราษฎรเดินหน้าชุมนุมต่อวันที่ 4-สรุปบาดเจ็บ 7 คน

ตำรวจเตือนอย่าแชร์ 3 เฟคนิวส์

กอร.ฉ.สั่งห้ามใช้รถไฟฟ้า- ใครถูกจับให้ส่งไปขังในค่ายทหารชลบุรี

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง