วันนี้ (19 ต.ค.63) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงความคืบหน้าการจัดหาวัคซีน COVID-19 ของประเทศไทย ได้เร่งรัดจัดหาใน 3 แนวทาง เพื่อให้มั่นใจว่าเมื่อมีการพัฒนาวัคซีนสำเร็จแล้ว ประเทศไทยจะมีวัคซีนใช้ในเวลาใกล้เคียงกับประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก
ทั้งการจัดหาวัคซีนล่วงหน้าโดยการจองล่วงหน้าผ่าน COVEX Facility และได้ส่งหนังสือแสดงเจนารมณ์เข้าร่วม เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา และการตกลงแบบทวิภาคี การเจรจาขอความร่วมมือรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีน COVID-19 จากต่างประเทศ และการพัฒนาวัคซีนเองในประเทศ
ส่วนการเจรจาความร่วมมือแบบทวิภาคีกับผู้ผลิตวัคซีนที่กำลังทดสอบวัคซีนที่กำลังทดสอบในคนระยะที่ 3 ทั้งในเอเซียและยุโรป ได้ดำเนินการไปพร้อมกับการเจรจาแบบกลุ่ม เพื่อเพิ่มโอกาสเข้าถึงวัคซีนของคนไทยมากขึ้น โดยความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุข สยามไบโอไซเอนซ์ เอสซีจี และแอสตราเซนเนกา ในการลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงในการผลิตและจัดสรรวัคซีน ที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด
สำหรับการพัฒนาวัคซีนในประเทศไทย มีทั้งหมด 7 เทคโนโลยีการผลิต จากทั้งหมด 9 หน่วยงาน มีทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ เอกชน และมหาวิทยาลัย การวิจัยที่มีความก้าวหน้ามากที่สุดอยู่ระหว่างการเตรียมทดสอบในมนุษย์ระยะที่ 1 ซึ่งตามแผนที่วางไว้ในการผลิตวัคซีนต้นแบบสำหรับทดสอบในมนุษย์คือ ไตรมาสแรกของปี 2564
แท็กที่เกี่ยวข้อง: