นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กังวลว่า เนื้อหาในญัตติของรัฐบาลที่ขอเปิดประชุมรัฐสภาเพื่อหาทางออกสถานการณ์การชุมนุมทางการเมือง ซึ่งถูกอ้างอิงถึงเรื่องขบวนเสด็จพระราชดำเนิน ทำให้อาจจะขัดกับข้อบังคับการประชุม ขณะเดียวกันยังไม่มั่นใจว่าการประชุมจะตอบสนองความคาดหวังของสังคมและเป็นทางออกของปัญหาหรือไม่จึงขอเวลาที่จะทบทวนท่าทีและนัดหมายพรรคร่วมฝ่ายค้านหารือ เพื่อหาข้อสรุปว่าจะเข้าร่วมการประชุมหรือไม่
ขณะที่นายชวนหลีกภัย ประธานวิปรัฐบาล เชื่อมั่นว่าผลลัพธ์ของการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญจะส่งผลให้สถานการณ์คลี่คลายลงได้
ตามญัตติขอเปิดการประชุมร่วมรัฐสภาสมัยวิสามัญ ระบุข้อเท็จจริงที่จะอภิปราย 3 ประเด็น คือ ความเสี่ยงในการระบาดของโรค COVID-19 ในพื้นที่ชุมนุม, การใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูงควบคุมการชุมนุม ในคืนวันที่ 16 ต.ค. และกรณีการขวางและหยุดขบวนเสด็จพระราชดำเนิน ในวันที่ 14 ต.ค.ซึ่งเป็นประเด็น ข้อกังวลของทั้งฝ่ายค้าน โดยนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล หรือแม้แต่นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ต่างก็กล่าวย้ำให้สมาชิกอภิปรายด้วยความระมัดระวังมีวุฒิภาวะและอยู่ในกรอบกฎหมาย
ในวันนี้ (22 ต.ค.63) ตัวแทน ครม., ฝ่ายค้าน, รัฐบาล และวุฒิสภา ร่วมหารือก่อนจะได้ข้อสรุปที่จะจัดสรรเวลาอภิปราย 23 ชั่วโมง โดยให้เวลาฝ่ายค้าน 8 ชั่วโมง ฝ่ายรัฐบาล, ครม. และวุฒิสภา ฝ่ายละ 5 ชั่วโมง และเห็นควรเริ่มการประชุม 09.30 น. ของวันที่ 26 ตุลาคม ก่อนจะปิดประชุมในเวลา 22.00 น.และอภิปรายต่อในวันที่ 27 ต.ค.จนครบเวลาที่กำหนดไว้