วันนี้ (28 ต.ค.2563) ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้อ่านคำวินิจฉัยของ ส.ส.อีก 32 คน แต่เป็น ส.ส.ในพรรคการเมืองฝ่ายค้าน โดยศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ "ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์" ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (อดีตพรรคอนาคตใหม่) พ้นจากความเป็น ส.ส. พบยังถือหุ้นบริษัท แอมฟายฯ และบริษัท เฮดอัพฯ ในวันสมัคร ส.ส. ซึ่งระหว่างการพิจารณาคดีผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้ชี้แจงประเด็นนี้ จึงเป็นเรื่องผิดวิสัย และไม่เชื่อว่ามีการโอนหุ้นก่อนหน้านั้น จึงให้ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากความเป็น ส.ส.ตั้งแต่แรก
ทั้งนี้ไม่ให้มีการเลื่อนลำดับ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ของพรรคอนาคตใหม่ขึ้นมาแทนที่ของ "ธัญญ์วาริน" เพราะพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบไปแล้ว
ท้ายสุดศาลวินิจฉัยว่า มี ส.ส.ฝ่ายค้าน 28 คน ไม่พ้นจากการเป็น ส.ส. และมี ส.ส. 1 คน ที่พ้นจากความเป็น ส.ส. คือ "ธัญญ์วาริน" ส่วนอีก 3 คน คือ พล.ท.พงศกร รอดชมภู ,นายสุรชัย ศรีสารคาม ,นายชำนาญ จันทร์เรือง อดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ พ้นจากความเป็น ส.ส.ไปก่อนหน้านี้จากคดียุบพรรคอนาคตใหม่
32 ส.ส.รัฐบาล รอดคดีถือหุ้นสื่อ
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยคดีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่าสมาชิกสภาพ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล จำนวน 32 คน สิ้นสุดลงจากการถือหุ้นสื่อหรือไม่ โดยศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ ส.ส. พรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล 32 คน ไม่ได้ถือหุ้นสื่อ โดย ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลจำนวน 29 คน ยังคงสมาชิกภาพตามเดิม ไม่ถือว่าขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส. ส่วนอีก 3 คน คือ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล และนายสมเกียรติ ศรลัมพ์ ไม่ได้เป็น ส.ส.แล้วจึงให้จำหน่ายคดี
ส่วนกรณี นางภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส.พลังประชารัฐ ที่ถูกจับตาในคดีนี้ เนื่องจากถือหุ้น บริษัท ทาโร่ทาเลนท์ ซึ่งเป็นบริษัทรับทำโฆษณา ว่าอาจเข้าข่ายถือหุ้นสื่อนั้น ศาลเห็นว่าบริษัทดังกล่าวไม่มีรายได้จากการดำเนินการ จึงมีมติเสียงข้างมาก ว่า บริษัทของ นางภาดาท์ ไม่เข้าข่ายบริษัทที่ประกอบกิจการสื่อ จึงไม่ต้องพ้นจากเป็น ส.ส.
แท็กที่เกี่ยวข้อง: