วันนี้ (29 ต.ค.2563) ไทยพีบีเอสออนไลน์สัมภาษณ์ นายสัตวแพทย์เผด็จ ศิริดำรง สัตวแพทย์จากปางช้างสวนนงนุชพัทยา หนึ่งในทีมสัตวแพทย์ที่เข้าร่วมรักษาช้างงาสั้น ช้างป่าที่มีอาการบาดเจ็บขาขวามบวมแดง ที่เขาสิงโต ม.3 ต.ป่ายุบใน อ.วังจันทร์ จ.ระยอง โดยได้ลงพื้นที่ร่วมกับควาญช้างที่มีความเชี่ยวชาญในการควบคุมช้างตกมัน ช้างดุ เนื่องจากพลายงาสั้น มีประวัติทำร้ายคนเสียชีวิตมาแล้ว ทำให้การเข้าถึงตัวช้าง จึงต้องใช้การยิงยาสลบ เพื่อความปลอดภัยของสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ ประกอบกับเป็นช้างที่มีน้ำหนัก 5-6 ตัน จึงไม่สามารถเคลื่อนย้ายช้างออกมาจากพื้นที่ได้ง่าย
พลายงาสั้น มีบาดแผลขาหน้าบวมแดง จนเดินไม่ไหว และมีภาวะเลือดเป็นพิษ ถ้าวางยาไม่ถึงโดสก็จะเสี่ยงต่อชีวิตได้ ทางสัตวแพทย์จึงปรับการรักษา และตัดสินใจเปิดบาดแผลโดยไม่วางยา พบว่ามีหนอง และแก๊สออกมาเยอะมาก
ภาพ: เฟซบุ๊ก เผด็จ ศิริดำรง
พบรอยกระสุนลูกปรายฝังตามลำตัวหลายจุด
นายสัตวแพทย์เผด็จ กล่าวว่า นอกจากนี้พบว่าขาที่บวมมาจากรอยกระสุน ที่ทำให้ขาอักเสบ และยังมีร่องรอยกระสุนแบบลูกปรายฝังที่ลำตัวหลายจุด สันนิษฐานว่าน่าจะถูกยิงหลายครั้ง เพราะประวัติเป็นช้างที่หากินในสวนยางแถวนี้ และอาจถูกยิงปืนไล่มา
เข้าไปขูดเนื้อตายหนองเน่า ใส่ยาฆ่าเชื้อล้างแผล แต่พบว่ากินลึกถึงกระดูกข้อเข่าของช้าง แต่ยังไม่ชัดว่าทำให้ข้อแตกหรือไม่ และต้องรอดูถ้า 1-2 สัปดาห์ขาเริ่มลงน้ำหนักได้ ก็อาจจะเป็นสัญญาณที่ดี ตอนทำแผลก็มีรำคาญบ้าง
นายสัตวแพทย์เผด็จ กล่าวว่า จากการสังเกตพฤติกรรมของพลายงาสั้น ยังมีสัญญาณที่ดี มีพฤติกรรมธรรมชาติ เช่น ยังสะบัดหางไปมา และพยายามจะยืน บางวันเคลื่อนได้เป็น 100 เมตร และกินอาหาร และไม่ขัดขืนเวลาที่ควาญช้างและหมอขูดเนื้อตายทุกๆวัน ล้างแผลทำแผล ให้น้ำ ให้อาหาร เพราะถ้าช้างอยู่นิ่งๆ เช่น หูนิ่ง ตัวเย็น งวงตก หางตก ยืนนิ่งไม่ขยับ
ถ้าให้ประเมินอาการยังบอกไม่ได้ว่าดีหรือไม่ ให้แค่ 2.5 คะแนนจาก 5 คะแนนที่อาการวิกฤต ก็วัดอีก 1-2 สัปดาห์จะมาลุ้นกันว่าจะลดการอักเสบจะลดลงหรือไม่
นอกจากนี้หากรักษาหายแล้วก็เป็นห่วงว่าถ้าปล่อยให้หากินในพื้นที่นี้อีก ช้างก็อาจจะสร้างความกังวลใจกับชาวบ้าน และอาจจะทำให้ช้างไม่ปลอดภัยได้อีก ถ้าเป็นไปได้อยากเสนอให้กรมอุทยานฯมีการทำเพนียดให้กับช้างที่รักษาอาหารป่วยแล้ว หรือช้างบาดเจ็บ เพื่อจะได้มีความปลอดภัยกับคนและช้างป่า
ภาพ: เฟซบุ๊ก เผด็จ ศิริดำรง
สั่งเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ด้านนายอนุชา กระจายศรี ผอ.สบอ.2 หัวหน้ากลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า หัวหน้าและสัตวแพทย์สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่ากระบกคู่ กล่าวว่า อาการทั่วไปช้างป่างาสั้น สามารถลุกยืนและเดินได้ กินอาหารได้ ขับถ่ายได้ปกติ สามารถลุกยืนได้เร็วขึ้น และยืนได้นานขึ้น
ลักษณะการเดินยังคงมีอาการเจ็บขาหน้าด้านขวา มีการเดินลากขา และขาหน้าข้างขวายังคงมีลักษณะบวม อักเสบ มีหนองไหลออกจากรูแผลเปิด พฤติกรรมช้างป่างาสั้น พบว่า มีพฤติกรรมนอนทับขาหน้าข้างขวาเพื่อทำการกดขาบีบให้หนองไหลออกจากรูแผล
จากการประเมินอาการของทีมสัตวแพทย์ สัตวบาล ยังคงต้องให้ยากินต่อเนื่องประกอบไปด้วย ยาฆ่าเชื้อ ให้ควบคู่กับยาฉีดชนืดออกฤทธิ์ได้นาน 7 วัน ยาลดปวด ลดอักเสบ แคลเซียม และ วิตามินบำรุงตับ โดยมอบหมายให้เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน ให้ยา อาหาร น้ำ และทำแผล เช็ดแผล พ่นยาฆ่าเชื้อทุกวัน โดยทีมสัตวแพทย์ สัตวบาล ติดตามอาการช้างป่าเพื่อประเมินผลการรักษา