วันนี้ (3 พ.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การระบาดของเชื้อ COVID-19 ถือเป็นหนึ่งในหัวข้อการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และการประชันวิสัยทัศน์ทุกครั้ง ต่างฝ่ายต่างหยิบเอาประเด็นนี้มาโจมตีกันจนนำไปสู่วิวาทะในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง
การหาเสียงเมื่อช่วงสุดสัปดาห์เกิดขึ้นในขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อรายวันกลับมาเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในแถบมิดเวสต์ เมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ทำสถิติมียอดผู้ติดเชื้อรายวันสูงถึง 100,000 คน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อใกล้แตะ 10 ล้านคน
มหาวิทยาลันสแตนฟอร์ด ประเมินว่า การหาเสียงของผู้นำสหรัฐฯ อาจเป็นแหล่งแพร่เชื้อ COVID-19 ขนาดใหญ่ เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อที่เชื่อมโยงกับการหาเสียงที่อาจสูงถึง 30,000 คน นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิตอีกกว่า 700 คน
ภาพการหาเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์ ตลอดหลายเดือน ตอกย้ำให้เห็นถึงการละเลยมาตรการป้องกันโรค โดยกลุ่มผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันส่วนใหญ่ไม่ยอมสวมหน้ากากอนามัย และไม่เว้นระยะห่างเพื่อป้องกันโรค สวนทางกับโจ ไบเดน ที่หาเสียงด้วยการจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมและให้ผู้สนับสนุนฟังการปราศรัยโดยไม่ต้องลงจากรถ
COVID-19 กระทบคะแนนนิยมผู้นำสหรัฐฯ หรือไม่
ผลสำรวจของ Ipsos สะท้อนให้เห็นกระแสตอบรับที่แตกต่างกันออกไปในกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถาม ซึ่งแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ ชาวอเมริกันทั้งหมด ผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครต และผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกัน โดยความพึงพอใจเพิ่มขึ้นจากทุกกลุ่มในช่วงเดือน มี.ค. หลังการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ และจัดสรรงบประมาณ 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้รัฐต่างๆ เพื่อนำมาใช้ยับยั้งการระบาดของ COVID-19
ความพอใจของ 2 กลุ่มนี้เริ่มลดลงในอีก 1 เดือนต่อมา ส่วนผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันยังพอใจกับการจัดการ จนกระทั่งต้นเดือน ก.ค. คะแนนนิยมของกลุ่มผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันลดลงจาก 90% มาอยู่ที่ 78%
สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากรัฐฐานเสียงทางภาคใต้และภาคตะวันตก เผชิญกับการระบาดของ COVID-19 อย่างหนัก จนเกิดการตั้งคำถามถึงการรับมือของรัฐบาล ภายใต้การบริหารของโดนัลด์ ทรัมป์ว่ามีประสิทธิภาพจริงหรือไม่
แม้คะแนนที่ลดลงไปอาจสรุปไม่ได้ว่า ผู้นำสหรัฐฯ ได้เสียคะแนนนิยมจนอาจทำให้พ่ายแพ้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่แนวโน้มการระบาดที่กลับมาเพิ่มสูงขึ้นในรัฐสมรภูมิสำคัญ ทั้งเพนน์ซิลเวเนีย มิชิแกน วิสคอนซิน และฟลอริดา ปัจจัยเหล่านี้จึงอาจกลายมาเป็นตัวแปรสำคัญที่จะช่วยชี้ขาดผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ในปี 2020 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขณะที่หลายฝ่ายมองว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้ไม่ต่างไปจากการลงประชามติวัดความพึงพอใจที่มีต่อการรับมือ COVID-19 และประเด็นนี้จะยังคงเป็นโจทย์ใหญ่อันดับแรกของผู้นำคนใหม่ในการหาทางรักษาและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ทรัมป์-ไบเดน" หาเสียงทิ้งทวนในรัฐสมรภูมิ
จับตา! ศึกชิงโหวตในวิกฤต COVID-19 สหรัฐฯ ป่วยใหม่เกินแสนคน