วันนี้ (18 พ.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์เอราวัณ รายงานตัวผู้บาดเจ็บจากเหตุสลายการชุมนุมของกลุ่มราษฎร และการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ กับผู้ชุมนุม และมวลชน บริเวณหน้ารัฐสภา เมื่อวานนี้ (17 พ.ย.) ระบุว่าปัจจุบันมียอดผู้ได้รับบาดเจ็บแล้วรวม 55 คน โดยแบ่งเป็น ผู้ได้รับบาดเจ็บจากแก๊สน้ำตา 32 คน ถูกยิง 6 คน (ไม่มีการยืนยันว่ากระสุนจริง หรือกระสุนยาง) มีอาการป่วยขณะชุมนุม 4 คน และบาดเจ็บอื่นๆ 13 คน โดยรักษาตัวตามโรงพยาบาลต่างๆ ดังนี้
- โรงพยาบาลวชิรพยาบาล 37 คน
- โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า 5 คน
- โรงพยาบาล พระรามเก้า 4 คน
- โรงพยาบาลราชวิถี 4 คน
- โรงพยาบาลรามาธิบดี 1 คน
- โรงพยาบาลเพชรเวช 1 คน
- โรงพยาบาลกลาง 1 คน
- โรงพยาบาลเลิดสิน 1 คน
- โรงพยาบาลมิชชั่น 1 คน
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijM8GovRE0H7sotAIXDEIIlVnadeLm.jpg)
"ทวี" อ้างผู้ชุมนุมโดนยิงบาดเจ็บ
ขณะที่การประชุมร่วมกันของรัฐสภา และลงมติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ วันที่ 2 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.ประชาชาติ กล่าวในสภาว่า วันนี้ผมเดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากการถูกยิงด้วยกระสุนจริงแต่เช้า แต่ไม่ได้เยี่ยม เพราะเขาต้องเข้าผ่าตัด สอบถามทราบว่าเป็น นักศึกษา เขาบอกว่าเขาเดินทางมาไม่ได้ต้องการอะไรจากประเทศ แต่ต้องการอนาคตที่ดี เขาสู้ข้างนอก แต่พวกเรานั่งอยู่ในห้องแอร์ ดังนั้น การตัดสินใจเราไม่กี่นาที อาจเป็นการทำร้ายประเทศ การสร้างสันติภาพไม่ใช่หาคนแพ้ชนะ แต่ต้องหาทางให้ประเทศเดินต่อไปได้
นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ตอบนายทวี ว่าเมื่อคืนให้นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร ไปเยี่ยมคนที่บาดเจ็บจากเหตุชุมนุม และถ้าพร้อมช่วงหลังลงมติก็ให้ไปเยี่ยมอีกครั้ง นอกจากนี้ยัง กำชับให้เจ้าหน้าที่สภาติดตามกระทำผิด และใช้ข้อความที่ไม่เหมาะสม จะให้ฝ่ายเลขาประสานดำเนินการ
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijM8GovRE0H7sotAIQRJJVNAfB9ovK.jpg)
กสม.กังวลเหตุชุมนุมห่วงรุนแรง
นอกจากนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกแถลงการณ์ระบุว่า รู้สึกเป็นกังวลและห่วงใยต่อสถานการณ์การชุมนุมที่อาจมีแนวโน้มนำไปสู่ความรุนแรง และเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงระหว่างกลุ่มที่มีความเห็นต่าง จึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายพิจารณา 4 เรื่อง ดังนี้ 1.ขอผู้ชุมนุมและประชาชนที่เห็นต่างทุกฝ่ายควรเคารพในสิทธิและเสรีภาพในความคิด ความเชื่อ และการแสดงออกของบุคคลอื่น โดยหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากัน การสร้างเงื่อนไข และการสื่อสารด้วยวิธีการใด ๆ ที่สร้างความขัดแย้ง ความเกลียดชัง และหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงต่อกันในทุกกรณี
2.รัฐบาลต้องเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้แนวทางสันติวิธีในการเจรจาแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าอย่างเป็นธรรมกับผู้ชุมนุมทุกฝ่าย หากไม่ปรากฏเหตุการณ์ที่จะนำไปสู่ความรุนแรง จะต้องไม่ใช้มาตรการในการสลายการชุมนุมจนกระทบต่อสิทธิในชีวิตและร่างกายของทุกฝ่าย ควรนำมาตรฐานสากลมาปรับใช้ตามสมควรแก่กรณีเพื่อให้มีลำดับขั้นตอน และวิธีการที่จะใช้ในการควบคุมการชุมนุมอย่างเหมาะสม
3.รัฐบาลควรเร่งเยียวยาทุกฝ่ายที่ได้รับบาดเจ็บหรือได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การชุมนุมอย่างรวดเร็วและเสมอภาค รวมทั้งเพิ่มมาตรการป้องกันการปะทะกันของกลุ่มผู้ชุมนุม ทั้งนี้ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บมาดำเนินคดีโดยเร็ว 4.สมาชิกรัฐสภาซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชน ควรร่วมกันใช้กลไกรัฐสภาในการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญและรับฟังข้อมูลจากทุกฝ่ายร่วมด้วย เพื่อมิให้สถานการณ์บานปลายและนำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงมากขึ้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตร.ปัดใช้กระสุนคุมชุมนุม-เก็บหลักฐานเหตุปะทะแยกเกียกกาย
ชุมนุมหน้ารัฐสภาวุ่น บาดเจ็บเบื้องต้นเกือบ 20 คน