วันนี้ (18 พ.ย.2563) เฟซบุ๊กเพจ Drama-addict เผยแพร่ข้อความ ระบุว่า เมื่อวานเห็นผู้ชุมนุมหลายคนเอานมไปล้างตา หลังถูกแก๊สน้ำตา ซึ่งเป็นสิ่งที่ลือกันมาจากผู้ชุมนุมในหลายประเทศ เช่น ฮ่องกง ว่าหากถูกแก๊สน้ำตาแล้วให้เอานมล้าง โปรตีนในนมจะช่วยเอาพวกสารเคมีในตาออก
จริงๆ แล้วไม่แนะนำนะ เพราะนมไม่สะอาดเพียงพอ การใช้นมล้างตาจะทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อตามมาหลังจากนั้นได้ ใช้น้ำเปล่า น้ำเกลือ น้ำสะอาดในการล้างตาก็เพียงพอแล้ว
ทั้งนี้ เพจดังระบุอีกว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านสารเคมีในแก๊สน้ำตาเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อ ABC News ว่า แม้แก๊สน้ำตาจะทำให้ปวดแสบตา แต่ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้เกิดความเสียหายถาวรกับดวงตา ดังนั้น หากล้างด้วยน้ำเปล่า ซักพักอาการก็จะดีขึ้น
หากเอานมไปล้างอาจทำให้เกิดการติดเชื้อตามมาในภายหลัง ดังนั้นใช้น้ำเปล่า น้ำสะอาด น้ำเกลือพอแล้ว ไม่ต้องใช้น้ำนม และห้ามขยี้ตาต้องระวังกระจกตาเป็นแผลด้วย
เมื่อวานเห็นผู้ชุมนุมหลายคน เอานมไปล้างตา หลังโดนแก๊สน้ำตา อันนี้เป็นสิ่งที่ลือกันมาจากผู้ชุมนุมในหลายประเทศเช่นฮ่องกง...
โพสต์โดย Drama-addict เมื่อ วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน 2020
สพฉ. แนะวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อถูกแก๊สน้ำตา
ขณะที่ก่อนหน้านี้ นพ.ประจักษวิช เล็บนาค รองเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนการปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับผู้ที่ถูกแก๊สน้ำตาไว้ โดยระบุว่า สิ่งแรกคือ หลีกเลี่ยงออกไปอยู่พื้นที่ที่ไม่มีควันแก๊สน้ำตา เพื่อป้องกันการสูดดมซ้ำ จากนั้นรีบล้างตาด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำเกลือในปริมาณมากๆ ทันที วิธีการล้างให้ปล่อยน้ำให้ไหลผ่านดวงตาเบาๆ นานสักระยะเพื่อให้นำล้างแก๊สน้ำตาออกให้หมด เพราะหากล้างน้ำแรงไปจะทำให้ดวงตาอักเสบหรือกระจกตาเสียหายได้ หลังจากล้างดวงตาเสร็จแล้วให้ล้างใบหน้า มือ ขา ขา ด้วยสบู่ หรือน้ำเปล่าก็ได้ แต่สบู่จะช่วยชะล้างแก๊สน้ำตาได้ดีกว่าน้ำเปล่า และควรรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijM8GovQzCWc4fi4G3C4YIQIjxWxuv.jpg)
สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่มีการใช้แก๊สน้ำตา ซึ่งผลกระทบจากการได้รับแก๊ส คือจะมีผลระคายเคืองต่ออวัยวะต่างๆ คือ ตา เยื่อบุจมูก ทางเดินหายใจ เยื่อบุช่องปาก และผิวหนัง ถ้าเข้าตา ทำให้มีน้ำตาไหล แสบตา หนังตาบวม เยื่อบุตาบวม ลืมตาไม่ขึ้น รวมทั้งอาจทำให้ตามองไม่เห็น หรือตาบอดชั่วคราว และอาจทำให้เกิดแผลที่กระจกตาได้
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijM8GovQzCWc4fi4Gs0y3ngxyy6Yhr.jpg)
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijM8GovQzCWc4fi4GuRFYTKeAeRTTH.jpg)
หากสูดดมเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ จะทำให้มีอาการไอ เจ็บคอ จาม มีเสมหะ แน่นหน้าอก หายใจลำบาก อาจมีหลอดลมตีบ จนหายใจไม่ออก แก๊สน้ำตาจะออกฤทธิ์ทันทีที่ร่างกายสัมผัสถูก และฤทธิ์จะคงอยู่นานประมาณ 10-30 นาที หลังจากพ้นการสัมผัส แต่อาจมีอาการอยู่นานได้ถึง 24 ชั่วโมงขึ้นไป หรือนานถึง 3 วัน และอาการจะรุนแรงเป็นอันตรายมากขึ้น หากได้รับในปริมาณที่เข้มข้นมากหรืออยู่ในบริเวณที่มิดชิด ไม่มีการถ่ายเทของอากาศ
แม้ว่าแก๊สน้ำตาจะไม่มีอันตรายมาก แต่อาจเป็นอันตรายแก่ผู้ที่เป็นโรคหอบหืดหรือถุงลมโป่งพองอยู่เดิม ทั้งยังมีรายงานการเสียชีวิตจากการใช้แก๊สน้ำตา เนื่องจากการมีปอดบวมน้ำ เลือดออกในปอด ปอดอักเสบ หรือการขาดอากาศหายใจ หรืออาจเสียชีวิตได้