วันนี้ (3 ธ.ค.2563) นายอนุรัตน์ อินทร ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย นางนงเยาว์ เนตรประสิทธิ์ นายกสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ จ.เชียงราย นายวิโรจน์ ชายา นายกสมาคมโรงแรม จ.เชียงราย นายเศรษฐศักดิ์ พรหมมา ประธานเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน จ.เชียงราย และภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ได้จัดประชุม ณ ร้านอาหารท่าน้ำภูแล อ.เมืองเชียงราย เพื่อหาวิธีการลดผลกระทบต่อภาคธุรกิจด้านการท่องเที่ยวอันเกิดวิกฤตไวรัส COVID-19 หลังพบนักท่องเที่ยวที่เคยจับจองห้องพักโรงแรม รีสอร์ท โฮมสเตย์ ฯลฯ ต่างมีการยกเลิกการเดินทางไปยัง จ.เชียงราย อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ที่ประชุมหอการค้าและเครือข่ายธุรกิจท่องเที่ยวมีมติให้ภาคเอกชนแสวงหาความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและประชาชน เพื่อให้มีพลังในการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยจัดหารือเพื่อจัดให้ทำความสะอาดเมืองครั้งใหญ่หรือบิ๊กคลินนิ่งใน จ.เชียงราย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวก่อนงานเทศกาลฤดูหนาวต่างๆ จะมีขึ้น เช่น งานเชียงรายดอกไม้บาน งานไม้ดอกอาเซียน งานสีสันดอยตุง ฯลฯ
หนุนแถลงข้อมูลในพื้นที่ลดเฟคนิวส์
ด้าน นายอนุรัตน์ กล่าวว่าสำหรับข้อเรียกร้องอื่นๆ ที่จะมีการนำเสนอผ่านนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ไปยังรัฐบาลคือขอให้ดำเนนโครงการจ่ายเงินให้ผู้สูงอายุ 5,000 บาท สนับสนุนการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือ เพิ่มการสนับสนุนงานกิจกรรมต่างๆ ในฤดูหนาวในพื้นที่ให้มากขึ้น จัดสรรงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจสำหรับ จ.เชียงราย และเยียวยาผู้ประกอบการทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยจากสถาบันการเงิน พร้อมจะเสนอให้ทางจังหวัดได้จัดแถลงข่าวเพื่อให้ข้อมูลที่แท้จริง ณ จุดเดียวประจำทุกวันเหมือน ศบค.ที่ส่วนกลางเพื่อลดเฟคนิวส์
ยกเลิกทัวร์นับสิบ สูญเงิน 1.8 ล้านบาท
ขณะที่นายเศรษฐศักดิ์ พรหมมา ระบุว่า ต้องการการสนับสนุนจากภาครัฐเรื่องการให้ข้อมูลข่าวสารอย่างมาก เพราะทุกวันนี้มีเฟคนิวส์เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด มีเฟคนิวส์ว่าจะมีการกักตัวคนขับรถนำเที่ยวที่กลับจาก จ.เชียงราย 14 วัน ทำให้คนขับรถไม่กล้าเข้าพื้นที่เพราะเกรงว่า จะกระทบกับงานของเขาเพราะขาดงานได้ไม่เกิน 10 วัน เป็นต้น ซึ่งหากมีการแก้ข่าวอย่างทันท่วงทีโดยภาครัฐจัดแถลงข่าวแก้ไขทันทีก็จะทำให้ปัญหาลดน้อยลง

ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีกรุ๊ปทัวร์ยกเลิกไปเยือนหมู่บ้านโฮมสเตย์ในเครือข่ายคือบ้านท่าขันทอง ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน และใกล้เคียงอย่างต่อเนื่อง จากเดิมมีจองคณะไปเที่ยวกว่า 30 คณะ ปรากฎว่าได้ยกเลิกไปแล้วถึง 18 คณะ คณะละประมาณ 40 คน ทำให้สูญเสียรายได้ไปแล้วกว่า 1.8 ล้านบาท และอาจมีแนวโน้มจะยกเลิกเพิ่มเติมอีกได้
แท็กที่เกี่ยวข้อง: