เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2563 นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงแนวทางการจัดหาวัคซีน COVID-19 หลังรัฐบาลได้ลงนามสัญญาจองซื้อวัคซีน COVID-19 กับบริษัทแอสตราเซเนกา จำนวน 26 ล้านโดส เพื่อฉีดฟรีให้กับประชาชนกลุ่มเป้าหมายล็อตแรก 13 ล้านคน หรือประมาณร้อยละ 20 ของประชากร ซึ่งเป็นการจองซื้อบนเงื่อนไขการรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตด้วย
ทั้งนี้ ได้เตรียมระบบบริหารจัดการไว้รองรับ โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับวัคซีน อาทิ บุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง พร้อมยืนยันประสบการณ์ด้านวัคซีนของไทยที่ได้รับการยอมรับจากองค์การอนามัยโลกมีระบบบริหารจัดการ ระบบอำนวยการ ประเมินผล และติดตามดูแลอาการไม่พึ่งประสงค์หลังการฉีดวัคซีน ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยพบการฉีดวัคซีนปลอมหรือนำน้ำเกลือมาฉีดแทน และไม่สามารถนำไปขายได้เพราะจัดซื้อโดยงบประมาณภาครัฐ
สำหรับการเตรียมความพร้อมในการให้วัคซีน COVID-19 มี 6 ด้าน ประกอบด้วย การจัดซื้อวัคซีน การเตรียมขึ้นทะเบียนวัคซีน และตรวจสอบคุณภาพ, การเตรียมสถานพยาบาล, สื่อสารประชาชนให้เข้าใจว่ากลุ่มเป้าหมายใดที่ควรรับวัคซีน, การรณรงค์ฉีดวัคซีน, ติดตามผลและติดตาม อาการหลังได้รับวัคซีน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไม่ "ล็อกดาวน์" 6 จังหวัดเสี่ยง10 หญิงไทยติด COVID-19
"หมอยง" ชี้สถานบันเทิงจุดเสี่ยงแพร่ COVID-19 แบบ superspred
จัดสถานที่กักตัว 180 คนไทยหนีตาย COVID-19 จากเมียนมา
แท็กที่เกี่ยวข้อง: