วันนี้ (28 ธ.ค.2563) พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงผลกวาดล้างหนี้นอกระบบทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 18-24 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยได้นำหมายค้นเข้าตรวจค้นเป้าหมายรวม 587 เป้าหมาย จับผู้ต้องหา 297 คน ตรวจยึดเงินสด 333,126 บาท บัญชีลูกหนี้ 3,280 รายชื่อ/สมุดบัญชี และบัตร ATM 47 รายการ
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijM8GqgpMlaXeQ0RJeTTqk6A5sRo34.jpg)
ทลายแก๊งแอปฯ RICH MONEY
คดีที่สำคัญ คือการบุกทลายแอปพลิเคชันเงินกู้นอกระบบ ซึ่งเป็นเงินทุนต่างชาติ ที่เรียกว่า RICH MONEY ซึ่งมีการให้ผู้กู้ติดตั้งแอปพลิเคชัน ลงในโทรศัพท์มือถือ มีการเรียกดอกเบี้ยร้อยละ 2,000 บาทต่อปี เกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด เมื่อกู้ผ่านจะถูกหักค่าบริการออกจากเงินกู้ แต่ลูกหนี้ยังต้องชำระหนี้เต็มจำนวนพร้อมดอกเบี้ย หากไม่ชำระตามกำหนดจะถูกทวงหนี้ในลักษณะข่มขู่ ด่าทอ คุกคาม และส่ง SMS ประจานไปยังบุคคลที่สาม โดยเมื่อคิดดอกเบี้ยแล่ว คิดเป็นร้อยละ 39.35 ต่อ 7 วัน หรือร้อยละ 5.66 ต่อวัน หรือร้อยละ 2,067 ต่อปี
โดยตำรวจนำหมายเข้าค้นบริษัทที่ตั้งอยู่ย่านพระราม 3 ซึ่งสามารถจับกุมผู้บริหารบริษัทที่เป็นนายทุนต่างชาติ พร้อมด้วยพนักงานรวม 6 คน ในความผิดฐาน "ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต และเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด" ดำเนินการอายัดบัญชีเงินฝาก จำนวน 4 ธนาคาร รวมทั้งสิ้น 15 บัญชี รวมเงินที่อายัดกว่า 6 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังพบว่าบริษัทดังกล่าวมีเงินทุนหมุนเวียนหลายร้อยล้านบาท มีบัญชีผู้กู้กว่า 10,000 ราย
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijM8GqgpMlaXeQ0RJb6XIjknczdfKL.jpg)
จับนายทุนเงินกู้รายใหญ่อีสาน
อีกคดีตำรวจจับกุม 3 นายทุนเงินกู้รายใหญ่ภาคอีสานใน จ.ขอนแก่น ซึ่งมีพฤติการณ์ปล่อยเงินกู้ โดยให้ผู้กู้นำรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์มาค้ำประกัน โดยไม่ทำสัญญาเงินกู้ แต่ทำสัญญารับฝากขายรถยนต์ และให้ผู้กู้ลงลายมือชื่อไว้ไม่ลงยอดจำนวนเงิน ซึ่งจำนวนเงินที่ผู้กู้จะได้อยู่กับสภาพรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์นั้นๆ โดยกลุ่มนายทุนจะคิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 10 ต่อเดือน ชำระจนกว่าจะครบยอดเงินที่กู้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนเพื่อขยายผลติดตามตัวผู้ครอบครองรถมาทำการสอบสวน โดยเบื้องต้นยึดรถรวม 67 คัน รถยนต์ 17 คัน รถจักรยานยนต์ 60 คัน ซึ่งพบว่ารถบางคันมีการแจ้งหายไว้ หรือยังอยู่ระหว่างเช่าซื้อกับบริษัทไฟแนนซ์
บ.เงินกู้ ทำร้าย พนง.ยักยอกเงิน
ส่วนคดีที่มีคลิปวิดีโอทำร้ายร่างกายชายคนหนึ่งต่อหน้าพนักงานในบริษัทแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสาคร และเมื่อตรวจสอบทราบว่าเป็นบริษัทรับปล่อยเงินกู้ แต่ชายที่ถูกทำร้ายร่างกายยักยอกเงินที่ไปเรียกเก็บจากผู้กู้มา เมื่อถูกจับได้จึงถูกทำร้ายร่างกายต่อหน้าพนักงานคนอื่นเพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่าง และจากการสืบสวนยังพบว่ามีพนักงานคนอื่นที่เคยถูกกระทำการเช่นเดียวกันมาแล้ว จึงได้สอบสวนและพบผู้กระทำความผิดร่วมด้วยในคดีนี้รวม 13 คน และศาลได้ออกหมายจับไว้ทั้งหมด และได้จับทุกคนดำเนินคดี ฐานร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijM8GqgpMlaXeQ0RJaUArFUZICJ1SB.jpg)
เตือนระวังธุรกิจเงินกู้นอกระบบ
พล.ต.อ.ปิยะ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะต้องตรวจสอบทั้งเส้นทางการเงิน และข้อมูลต่างๆ ที่ชุดสืบสวนได้ตรวจสอบกลุ่มธุรกิจเงินกู้นอกระบบทั้งหมดว่าเกี่ยวข้องกับบุคคลใดบ้าง และเข้าข่ายความผิดฟอกเงิน หรือสิ่งผิดกฎหมายชนิดอื่นๆ อีกหรือไม่ พร้อมเตือนประชาชนให้ระมัดระวังกลุ่มธุรกิจเหล่านี้ที่จะเข้าถึงประชาชนได้ง่าย และรวดเร็วประกอบกับในช่วง COVID-19 ที่หลายคนมีความต้องการใช้เงิน ทำให้อาจจะเกิดหนี้โดยที่ไม่รู้ตัว และหากต้องการขอความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ทุกสถานีตำรวจ หรือโทรศัพท์ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง