วันนี้ (5 ม.ค.2564) บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศใช้มาตรการปิดเมืองทั่วประเทศอังกฤษ เพื่อชะลอการระบาดของ COVID-19 หลังจากในรอบ 7 วันที่ผ่านมา อังกฤษพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยมากถึงวันละกว่า 55,000 คน และตั้งแต่หลังเทศกาลคริสต์มาส โรงพยาบาลทั่วอังกฤษมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 50 แล้ว โดยราวๆ ร้อยละ 30 ของเตียงผู้ป่วยทั้งหมดที่มีในระบบสาธารณสุขขณะนี้ต้องใช้เพื่อรองรับผู้ป่วย COVID-19

โดยนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ระบุว่า ประชาชนต้องร่วมมือกันมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อยับยั้งการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่พบการกลายพันธุ์ ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าแพร่กระจายและทำให้คนติดเชื้อได้ง่ายถึงร้อยละ 50 - 70

มาตรการดังกล่าวส่งผลให้ประชาชนทั่วอังกฤษต้องเก็บตัวอยู่ในบ้านและจะออกมาข้างนอกได้เฉพาะเมื่อมีเหตุผลจำเป็น เช่น การซื้อสิ่งของจำเป็น อาหารและยา หรือการออกไปประกอบอาชีพที่ไม่สามารถทำที่บ้านได้ เหมือนกับการปิดเมืองป้องกันโรคครั้งก่อนเมื่อเดือน มี.ค.ปีที่แล้ว

นอกจากนี้ สถานที่ออกกำลังกายต่างๆ จะต้องปิดให้บริการ เช่นเดียวกับสถานศึกษาที่ต้องปิดทั้งหมดและเปลี่ยนไปใช้ระบบการเรียนการสอนทางไกล ส่วนร้านอาหารยังขายอาหารแบบซื้อกลับบ้านได้ แต่ห้ามไม่ให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สำหรับซื้อกลับบ้าน โดยมาตรการนี้จะมีผลบังคับใช้ไปจนถึงกลางเดือน ก.พ.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
COVID-19 กลายพันธุ์กระจาย 33 ประเทศทั่วโลก