วันนี้ (5 ม.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร้านอาหารหลายร้าน ย่านพหลโยธิน เริ่มปรับตัวรับมาตรการ กทม. เป็นวันแรก หลังกรุงเทพมหานครประกาศห้ามร้านอาหารทุกประเภทในเขตพื้นที่ กทม. ห้ามนั่งรับประทานอาหาร ช่วงเวลา 21.00 น.-6.00 น. และขายเครื่องดื่ม เพื่อลดการรวมตัวของประชาชน และป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 รอบใหม่


ร้านอาหารหลายร้านระบุว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ ส่งผลกระทบต่อการให้บริการลูกค้าอยู่บ้าง แต่ครั้งนี้เป็นการระบาดรอบที่ 2 การปรับตัวของร้านอาหารส่วนใหญ่ จึงนำแนวทางข้อปฏิบัติในรอบแรกมาปรับใช้
รวมถึงการเพิ่มบริการเดลิเวอรี่ ในการบริการสำหรับลูกค้าที่ไม่สะดวกมารับประทานที่ร้าน เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการบริการและยอดขายของร้านในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด


เช่น ร้านข้าวต้ม ย่านพหลโยธิน เจ้าของร้านบอกว่า หลังนายกรัฐมนตรี ประกาศขยายระยะเวลาจากเดิม ที่ทางกรุงเทพมหานคร ประกาศ จากช่วงเวลา 19.00 น. เป็น 21.00 น.
ระยะเวลาที่เพิ่มมาอีก 2 ชั่วโมง ถือเป็นช่วงเวลาที่ลูกค้าเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมากหลังเลิกงาน เพราะด้วยร้านอาหารเป็นการขายข้าวต้ม ลูกค้าส่วนใหญ่จึงเป็นกลุ่มคนทำงาน การนั่งกินที่ร้าน จึงทำให้สะดวกมากกว่าการซื้อกลับไปกินที่บ้าน


ขณะที่สำนักงานเขตหลักสี่ ลงพื้นที่สำรวจร้านอาหารในพื้นที่ พร้อมเสนอแนวทางข้อปฏิบัติสำหรับร้านอาหาร เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งผลจากการสำรวจ พบร้านอาหารส่วนใหญ่ต่างให้ความร่วมมือในการให้บริการ โดยมีการตรวจวัดอุณหภูมิ ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และมีการวางโต๊ะเว้นระยะห่าง


ส่วนด้านร้านค้าในตึกแถว และหาบเร่แผงลอย ที่ยังไม่ทราบข้อมูลและยังไม่ปฏิบัติตามประกาศ ทางสำนักงานเขตหลักสี่จะให้ทางเจ้าหน้าที่เทศกิจลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจกับผู้ค้า เพื่อป้องกันและลดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19