วันนี้ (14 ม.ค.2564) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวน กรณีมีผู้เสียชีวิตและได้รับอันตรายจากการเสพเคตามีนผสมสารอื่นใด หรือที่เรียกกันในชื่อ "เคนมผง" ซึ่งเกิดขึ้นในหลายท้องที่ของพื้นที่นครบาล ว่า การรวบรวมพยานหลักฐานขณะนี้มีผลการตรวจสอบหลักฐานในพื้นที่วัดพระยาไกร ซึ่งพบยาเสพติดในบ้านพักของผู้เสียชีวิตคือ เคตามีน อยู่ในถุงพลาสติกใส พบเฮโรอีนจำนวนหนึ่งบรรจุอยู่ในธนบัตรใบละ 20 บาทห่อหุ้มไว้ ขณะที่อีกจุดพบเป็นเคตามีนผสมกับยานอนหลับ โดยส่วนผสมเหมือนกันกับที่ผู้เสียชีวิตในย่านสุทธิสารเสพและเสียชีวิต
ผบช.น.ตั้งข้อสังเกตว่า ผู้เสพอาจมีทั้งกลุ่มที่ซื้อเคนมผงมาเสพ หรืออาจซื้อสารเสพติดชนิดต่างๆ มาผสมรวมเพื่อเสพด้วยตัวเอง ส่วนผู้ค้าขณะที่นี้จับไปได้แล้วรวม 8 คน จาก 5 คดี โดยแยกเป็นคดีในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร 4 คน, อสน.จรเข้น้อย 1 คน, สน.สายไหม 1 คน และอีก 2 คนจับกุมจากพื้นที่ สภ.คูคต ซึ่งสืบสวนขยายผลจากผู้ค้ารายย่อยในเขตสายไหม
ขณะที่ผลการสอบสวนให้การเป็นประโยชน์หลายคน และพบว่ามีแหล่งซื้อมากจากลำลูกกา จ.ปทุมธานี เหมือนกัน แต่จะเป็นเจ้าเดียวกันหรือไม่ เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบและเตรียมขยายผลจับกุมเพิ่มเติม
รวบรวมพยานหลักฐานให้รัดกุม คาดว่าจะเพียงพอให้ออกหมายจับและดำเนินการจับกุมผู้ค้าเพิ่มได้ภายใน 2 วันนี้
นอกจากนี้ ผบช.น.ยังระบุด้วยว่า สำหรับกลุ่มผู้ค้าเคนมผง ที่ผู้ซื้อมาเสพแล้วเกิดอันตรายต่อชีวิต นอกจากจะมีความผิดฐานครอบครองยาเสพติด และจำหน่ายยาเสพติดแล้ว อาจจะเข้าข่ายกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายได้อีกด้วย
ส่วนผู้เสียชีวิตที่มีสาเหตุแน่ชัดว่าเกิดจากการเสพเคนมผงขณะนี้มี 9 คน อีกทั้งยังมีผู้ที่หมดสติหลังเสพและถูกส่งตัวเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลอีก 5 คน ขณะนี้อาการยังอยู่ในขั้นวิกฤตและพักรักษาตัวในห้องไอซียู 3 คน ส่วนที่เหลืออาการดีขึ้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้
เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงชื่อเรียกเคตามีนผสมสารเสพติด หรือยาอื่นใดด้วยว่า มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามส่วนผสมหรือพื้นที่ ส่วนใหญ่เรียก "เคนมผง" ขณะที่บางกลุ่มเรียก "ทะเลทราย" หรือในต่างประเทศจะเรียกว่า "ค็อกเทล"