วันนี้ (18 ม.ค.64) พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ รองเสนาธิการทหารบก ในฐานะโฆษกกองทัพบก ย้ำภารกิจสำคัญของกองทัพบกทั้งปกป้องชายแดน พิทักษ์สถาบัน และช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะสนับสนุนรัฐบาลแก้ไขสภานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 พร้อมทั้งเดินหน้าปฏิรูปกองทัพส่วนการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์เป็นไปตามแผนงาน
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ระบุว่า กองทัพบกได้เสริมกำลังตามแนวชายแดนในช่วงไตรมาสแรกไปแล้ว 5 กองร้อย เน้นชายแดนตะวันตก สกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาสามารถสกัดแรงงานผิดกฎหมายชายแดนได้กว่า 7,000 คน และมีแนวโน้มลดลงในช่วงที่มีการกวดขันแรงงานผิดกฎหมายที่ลักลอบเข้ามาโดยไม่ผ่านการคัดกรอง COVID-19
นอกจากนี้ยังเพิ่มการเฝ้าระวังแรงงานข้ามชาติเข้ามาสวมสิทธิ์ในช่วงที่ไทยมีการผ่อนผันให้ลงทะเบียนแรงงาน 3 สัญชาติ ส่วนการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัส COVID-19 ในภาพรวมเน้นการรักษาความมั่นคง สนับสนุนภาครัฐ โดยเฉพาะในพื้นที่กักกันแห่งรัฐและสนับสนุนพื้นที่การรักษาผู้ป่วย COVID-19 ตามระดับความรุนแรง รวมไปถึงอุปกรณ์สำหรับโรงพยาบาลสนาม และบริจาคโลหิตที่ขาดแคลนในช่วง COVID-19 โดยกำลังพลกองทัพบกได้บริจาคโลหิตไปแล้วกว่า 9 แสนมิลลิลิตร ส่วนการเกณฑ์ทหารในเดือน เม.ย.นี้ จะปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์ COVID-19 ซึ่งอาจมีการขยายวันเหมือนปีที่ผ่านมา
วันที่ 18 ม.ค.ของทุกปี ตรงกับวันกองทัพไทย และวันกองทัพบก ถือเป็นวันที่รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ทรงกอบกู้เอกราชของชาติไทย จึงเป็นวันสำคัญที่กำลังพลในกองทัพทุกนายจะได้ตระหนักถึงภาระหน้าที่ และสืบทอดเจตนารมณ์ของพระองค์ท่านเพื่อรักษาแผ่นดินนี้