วันนี้ (28 ม.ค.2564) องค์การอนามัยโลก ระบุว่าการพัฒนาวัคซีน COVID-19 เพื่อรับมือกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่พบการกลายพันธุ์เป็นสิ่งที่ทำได้ และใช้เวลาไม่มากหากพบว่าวัคซีนที่มีอยู่สูญเสียประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสกลายพันธุ์ โดยอ้างอิงจากการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ ซึ่งทั่วโลกเปลี่ยนองค์ประกอบของวัคซีน ปีละ 2 ครั้ง สำหรับรับมือการแพร่ระบาดในซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้ รวมไปถึงไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่พบการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
ยาสูตรผสมสารภูมิต้านทานป้องกันไวรัสกลายพันธุ์ได้
ขณะที่รีเจเนอรอน ผู้ผลิตยาสูตรผสมสารภูมิต้านทานสังเคราะห์สำหรับใช้รักษาผู้ป่วย COVID-19 ระบุว่า สารภูมิต้านทานหรือแอนติบอดีตัวหนึ่งในยาของทางบริษัท สามารถป้องกันเชื้อ COVID-19 ที่พบการกลายพันธุ์ได้ทั้ง 2 แบบ ทั้งที่พบในอังกฤษและในแอฟริกาใต้ หรือการกลายพันธุ์แบบ บี.1.1.7 และ บี.1.135 โดยยาดังกล่าวสำนักงานอาหารและยาสหรัฐอเมริกาอนุมัติให้ใช้งานฉุกเฉินแล้วและเคยใช้รักษาอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขณะป่วยเป็น COVID-19 เมื่อปีที่แล้ว
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า COVID-19 กำลังกลายพันธุ์อย่างต่อเนื่องและอาจทำให้วัคซีนมีประสิทธิภาพน้อยลง ทำให้ในอนาคตเป็นไปได้ว่ามนุษย์จะต้องปรับปรุงวัคซีนเพื่อให้รับมือกับการกลายพันธุ์ของชนิดนี้อย่างต่อเนื่อง ไม่ต่างจากวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่ต้องปรับปรุงและฉีดใหม่อยู่เป็นประจำทุกปี