วันนี้ (31 ม.ค.2564) ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก ระบุว่า การใช้มาตรการควบคุมการส่งออกวัคซีนของสหภาพยุโรป อาจส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิตวัคซีนทั่วโลก ท่าทีขององค์การอนามัยโลกเกิดขึ้น หลังจากคณะกรรมาธิการยุโรปประกาศใช้มาตรการดังกล่าวอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค. ไปจนถึงวันที่ 31 มี.ค.นี้

การบังคับใช้มาตรการควบคุมการส่งออกวัคซีน COVID-19 จะมีผลบังคับใช้กับบริษัทผู้พัฒนาวัคซีน ที่ทำข้อตกลงสั่งซื้อวัคซีนกับคณะกรรมาธิการยุโรปไว้แล้วเท่านั้น บริษัทที่ประสงค์จะส่งออกวัคซีนให้ประเทศนอกกลุ่มสหภาพยุโรป ต้องยื่นเรื่องขออนุญาตส่งออกวัคซีนและแสดงข้อมูลส่งออกวัคซีนย้อนหลัง 3 เดือนเสียก่อน
กระทบการสั่งซื้อวัคซีนของ 100 ประเทศทั่วโลก
การบังคับใช้มาตรการดังกล่าว อาจส่งผลกระทบต่อการสั่งซื้อวัคซีนของ 100 ประเทศทั่วโลก รวมถึงสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา แคนาดา และออสเตรเลีย ขณะที่การส่งออกวัคซีนไปยังสวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ อิสราเอล เลบานอน ประเทศในคาบสมุทรบอลข่าน และโครงการโคแแว็กซ์ได้รับการยกเว้นจากมาตรการนี้

การบังคับใช้มาตรการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากแอสตราเซเนกา อาจจัดส่งวัคซีนให้สหภาพยุโรปต่ำกว่าเป้าหมายในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ จากปัญหาด้านการผลิต โดยปริมาณการจัดส่งวัคซีนในช่วงเวลาดังกล่าว อาจลดลงจากอย่างน้อย 80 ล้านโดส เหลือเพียง 30 ล้านโดส สร้างความไม่พอใจให้สหภาพยุโรปเป็นอย่างมาก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน" ทดสอบวัคซีนโควิดได้ผล 66%
เลขาฯ ยูเอ็นฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19
"โนวาแวกซ์" เผยวัคซีน COVID-19 ป้องกันเชื้อกลายพันธุ์ได้
แท็กที่เกี่ยวข้อง: